ข่าว"แพร์ พิชชาภา"ถอดบท"พิไล" พร้อมรับแรงกดดันเพื่อความสำเร็จ - kachon.com

"แพร์ พิชชาภา"ถอดบท"พิไล" พร้อมรับแรงกดดันเพื่อความสำเร็จ
บันเทิง

photodune-2043745-college-student-s

แจ้งเกิดบทนางร้ายแบบเต็ม ๆ สำหรับนักแสดงสาว แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา  ในบทบาท พิไลจากละครคุณภาพ ที่เพิ่งลาจอไป อย่าง กรงกรรมฝีมือผู้จัดและผู้กำกับคนเก่ง อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แห่ง แอคอาร์ต ที่เรื่องนี้สาวแพร์ได้ปล่อยโชว์ศักยภาพการแสดงแบบจัดเต็ม จนคนหมั่นไส้ก่อนปิดท้ายด้วยสงสารไปทั้งบ้านเมือง แม้ในเรื่องจะรายล้อมไปด้วยนักแสดงแถวหน้าและมากฝีมือ แต่สาวแพร์ก็เอาอยู่และโดดเด่นไม่แพ้ทุกคนในเรื่อง วันนี้ ดาวต่างมุมเลยไม่พลาดอาสาไปค้นตัวตนของสาวคนนี้ ทั้งเบื้องหลังการเป็น พิไล มุมมองชีวิตในวงการ รวมไปถึงเรื่องความรัก ที่ตอนนี้เจ้าตัวมีคนจับจองหัวใจแล้วด้วย

ละครจบไปแล้วแต่กระแสพิไลยังฟีเวอร์?
“ดีใจค่ะ ที่คนดูชื่นชอบในงานที่เราตั้งใจ เราได้รับฟีดแบ็กกลับมาเยอะมากเกินความคาดหมาย เรียกว่าหายเหนื่อย และคุ้มค่ากับความตั้งใจและทุ่มเทของทั้งเราเองและทีมงาน นักแสดงทุกท่านจริง ๆ ตัวแพร์เองก็ตกใจกับการถูกพูดถึงที่มากมายขนาดนี้ค่ะ”

 จากบทพิไลทำให้รู้จักและสนใจตัวแพร์มากขึ้น?
“ก่อนหน้านี้แพร์ก็แสดงมาหลายบท แต่เรื่องกรงกรรมต้องยอมรับเลยว่าคนดูเยอะจริง ๆ ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่เลย  ด้วยลายเซ็นของพี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ ที่เป็นที่ยอมรับอยู่แล้วว่าแต่ละเรื่องมีคุณภาพคับแก้วแน่นอน บวกกับบทละครที่มีมิติ มีการนำเสนอที่แตกต่างน่าสนใจมากกว่าเรื่องอื่นที่มุ่งจุดสนใจไปที่พระ-นาง แต่สำหรับเรื่องนี้ทุกตัวละครมีที่มาที่ไป นอกจากนี้ยังได้นักแสดงคุณภาพ ทั้ง พี่ใหม่ เจริญปุระ ที่กลับมารับงานละครและทำได้ยอดเยี่ยม มาเจอกับพี่เบลล่า-ราณี แคมเปน นางเอกแถวหน้าของประเทศ ไหนจะ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข และรายล้อมไปด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกมากมายที่มาสร้างมิติให้แต่ละตัวละครมีเสน่ห์ในตัวของเขาเองค่ะ”

 คิดมาก่อนมั้ยว่าพิไลจะเป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ขนาดนี้?
“ไม่เคยคิดเลยค่ะ ตอนแรก เรารู้อยู่แล้วว่าละครพี่อ๊อฟดี มั่นใจในทีมเขาว่ามีคุณภาพและบท พิไล ก็ดีมาก แต่เราไม่มั่นใจตัวเองว่าเราจะเล่นได้ไหม (หัวเราะ) เพราะจริงอยู่เราเหมือนเล่นละครมาหลายเรื่อง แต่ถ้าเทียบกับนักแสดงมืออาชีพทุกคนในเรื่องนี้ที่เราต้องมาเจอ เราก็ยังถือว่าเป็นเด็กน้อยอยู่ เราไม่ได้เก่ง หรือ มีประสบการณ์มากขนาดนั้น ขอบคุณพี่อ๊อฟ พี่แดง-ธัญญา  วชิรบรรจง ที่เลือกให้โอกาส เชื่อมั่นในตัวแพร์ว่าแพร์สามารถถ่ายทอดบทใหญ่ ๆ ได้ เพราะจริง ๆ แพร์ได้มาแคสติ้งบทนี้โดยบังเอิญ วันนั้นแพร์ไปเวิร์กช็อปละครอีกเรื่องนึง  พี่คนที่ช่องก็เรียกให้ไปแคสติ้ง พอเข้าไปก็มีว่าที่พิไล 40-50 คนเลย แต่ละคนก็เป็นเด็กใหม่ไฟแรงสูง ส่วนเราเองก็มาแบบไม่ได้ตั้งใจ รู้แค่ว่าเป็นละครพี่อ๊อฟ บทชื่อ เรณู กับ วรรณา  และเรื่องเกี่ยวกับซ่อง ๆ อะไรสักอย่าง ส่วนอื่น ๆ ไม่รู้รายละเอียดเลย และบทที่แคสตอนนั้นแพร์แคสเป็นเรณูด้วยนะคะ (หัวเราะ) พอเวลาผ่านไป ผู้ใหญ่บอกว่าเราได้เล่นเป็น “พิไล” เรื่อง “กรงกรรม” นะ เราก็งงนะว่าพิไลไหน กรงกรรมไหน (หัวเราะ) พอได้บทมา ได้ไปเวิร์กช็อปทำให้รู้เลยว่างานนี้เป็นงานคุณภาพของช่องเลย เมื่อเราได้รับโอกาสแล้วเราจะตั้งใจทำเต็มที่ค่ะ”

 ด้วยบทที่ยากมาก มีจุดที่ทำให้เครียดจนอยากถอดใจบ้างรึเปล่า?
“เครียดทั้งเรื่องเลย กองนี้ทำงานจริงจังมากค่ะ ด้วยความที่เราไม่เก่งขนาดนั้น จากที่เราตั้งใจอยู่แล้ว เราก็ต้องยิ่งตั้งใจเพิ่มไปอีกหลายเท่าแต่โชคดีที่พี่ใหม่ พี่เบล คอยแนะนำ คอยสอนตลอด รวมทั้งแชมป์-ชนาธิป โพธิ์ทองคำ ที่รับบทเป็น อาตง เขาขยันมาก ดีใจที่เราถูกรายล้อมไปด้วยคนเก่งและตั้งใจทำงานจริง ๆ ความสำเร็จของแพร์ในแต่ละฉากที่คนดูชื่นชอบจะออกมาดีไม่ได้เลย ถ้าขาดทีมงาน ผู้กำกับ และนักแสดงแวดล้อมที่คอยส่งอารมณ์ ส่งเรื่องราวให้เราถ่ายทอดออกมาได้เต็มที่ค่ะ”

 ตอนนี้มีงานมาสเตอร์พีซที่คนรู้จักแล้ว ขอย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงของแพร์หน่อย?
“แพร์เข้าวงการโดยการชักชวนจากโมเดลลิ่งค่ะ แรก ๆ ก็แคสติ้งงานทั่วไป ได้งานบ้างไม่ได้งานบ้าง และไม่ได้ตั้งใจว่าอยากจะเป็นนักแสดง ตอนเด็ก ๆ อยากบวช เพราะเรานับถือศาสนาคริสต์ เรามีความสุขกับการเข้าโบสถ์ โตอีกนิด อยากเป็นครู เพราะคุณแม่เป็นครู โตมาอีกหน่อยก็อยากเป็นแอร์โฮสเตส อยู่โรงเรียนก็ไม่ใช่เด็กกิจกรรม และไม่ใช่เด็กเรียนนะ (หัวเราะ) เป็นเด็กเฉย ๆ กลาง ๆ เขาให้ทำอะไรก็ทำ ไม่ได้โดดเด่นด้านใดด้านหนึ่ง จนมีโอกาสได้มาลองทำงานแสดง มีโอกาสเข้ามาช่อง 3 ได้เรียนการแสดง เราก็เริ่มเข้าใจการแสดงมากขึ้น รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ  โชคดีว่าแพร์ก็ได้รับโอกาสจากช่อง 3 เรื่อย ๆ ได้งานที่แตกต่างกันไป มีความท้าทายมากขึ้น  เรายิ่งทำยิ่งรู้สึกสนุก พองานเราออกมายิ่งมีคนติดตาม ชื่นชอบในงานของเราเราก็ดีใจและค้นพบว่าเราชอบงานด้านนี้ค่ะ”

 ตอนกลายเป็นนางร้ายที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เราปรับตัวในการใช้ชีวิตยังไง?
“ไม่ได้ปรับอะไรเลยค่ะ แพร์ก็ยังทำตัวแบบเดิม แค่เรารู้สึกว่างานเราประสบความสำเร็จก็เหมือนเราทำเป้าหมายหนึ่งในชีวิตของเราสำเร็จ เราแค่หาเป้าหมายต่อไปที่ท้าทายตัวเรา 5 ปี ในวงการสอนอะไรแพร์ได้มาก เมื่อก่อนเป็นเด็กที่ชิลแล้วชิลอีก มองว่าวงการบันเทิงคือที่ของแค่คนสวยคนหล่อ พอเรามาทำงานตรงนี้ทำให้เรารู้ว่ามันไม่ใช่นะ การจะอยู่ตรงนี้ต้องมีวินัย มีความพร้อม และต้องพัฒนาตัวเองเสมอ มีความรับผิดชอบ มีความกระตือรือร้น รวมถึงเรื่องนิสัยใจคอต่าง ๆ ที่เป็นสิ่งสำคัญมากกับการอยู่ตรงนี้ค่ะ”


 ด้วยชื่อเสียงที่มากขึ้น ทำให้เรากดดันมากขึ้นด้วยรึเปล่า?
“ไม่กดดันค่ะ แพร์เป็นคนที่มีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ เป้าหมายแพร์แต่ละเป้าหมายจะไม่ได้ใหญ่โตมากมาย เหมือนที่ทุกคนคิดว่าเราประสบความสำเร็จแบบนี้แล้วต่อไปต้องสำเร็จยิ่งใหญ่มากกว่านี้ ถ้ามันมีโอกาสได้เติบโตเราก็เต็มที่ แต่ถึงแม้มันจะเป็นแค่ความสำเร็จเล็ก ๆ แพร์ก็แฮปปี้ เพราะเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ แพร์ไม่ได้มองว่าความกดดันเป็นสิ่งที่แย่ แต่ความกดดันนั้นแสดงถึงมาตรฐานที่เราต้องพัฒนาเพื่อความสำเร็จ มันเป็นโชคดีด้วยซ้ำที่มีแรงกดดันมาผลักดันเราให้เติบโตต่อไป แพร์อยากทำงานตรงนี้ไปเรื่อย ๆ เหมือนนักแสดงที่เจ๋ง ๆ หลาย ๆ คน จริงอยู่ว่าคนอาจจะมองว่าวงการนี้ฉาบฉวย แต่สำหรับแพร์ถ้าเราวางตัวดี ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ เราสามารถทำตรงนี้ให้เป็นอาชีพที่มั่นคงได้แพร์จะทำอาชีพนี้ไปจนแก่ (หัวเราะ) เราเลือกแล้วว่าเราจะอยู่ แต่โอกาสที่จะเอื้อให้เราได้อยู่มากน้อยแค่ไหนอันนี้ก็คงเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงแพร์ก็ยอมรับได้ค่ะ”

 หลังจากนี้จะมีผลงานอะไรให้แฟน ๆ ติดตามอีกบ้าง?
“ตอนนี้ถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง คือ “พยากรณ์ซ่อนรัก” และ “อกเกือบหักแอบรักคุณสามี” ค่ะ และมีภาพยนตร์เรื่อง “จอมขมังเวทย์ 2020” จะได้ชมกันปลายปี งานแพร์หลากหลายมาก ซึ่งทำให้แพร์รู้สึกดีที่ได้รับโอกาสที่ดี ๆ แบบนี้ก็อยากให้ติดตามกันค่ะ”

 ถ้าสลัดคราบพิไลออกไปแล้วแพร์คือผู้หญิงสไตล์ไหน?
“แพร์เป็นผู้หญิงทุกสายเลยนะ คือ อย่างที่บอกแพร์เป็นคนกลาง ๆ อย่างสายห้าว เราก็เล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ได้ แต่อาจจะไม่ได้แมนสุด อย่างมุมหวานอยากให้สวมชุดหวาน ๆ มาถ่ายรูปในคาเฟ่เราก็ทำได้ เพียงแต่ก็ไม่ได้หวานตลอดเวลา ก็มีมุม มุมเฮฮาเราก็มี แล้วแต่โอกาสมากกว่า แพร์เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ว่าง ๆ ก็นอนดูหนัง ซีรีส์ เล่นกับแมว อ่านหนังสือบ้าง ออกไปเที่ยว ธรรมดาเป็นคนปกติมาก ๆ เลย”

 นอกจากงานจะเปรี้ยงแล้ว  เรื่องความรักก็กำลังรุ่งเหมือนกัน?
“ความรักก็ปกติค่ะ แพร์มีแฟนเป็นคนนอกวงการ ตอนนี้คบกันมาประมาณ 1 ปีแล้ว แพร์เองก็ไม่ได้ปิดบัง เราใช้ชีวิตทั่วไป กินข้าว เดินห้าง ด้วยกันปกติ  แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยเบอร์ใหญ่ถึงขนาดโพสต์รูปหวานสวีทอะไรขนาดนั้น เราแค่ใช้ชีวิตปกติ มันไม่มีอะไรต้องเปิด การรักกัน คบหากัน เป็นเรื่องของคนสองคน แต่ถ้ามีคนถามเราก็ตอบตามความจริง ทุกวันนี้แพร์อาจจะงานเยอะขึ้น เขาเองก็เข้าใจค่ะ อาจจะมีบางเรื่องที่ไม่เข้าใจในการทำงานในวงการแต่ไม่ได้งอแงอะไรมากมายค่ะ”

 หนุ่มคนนั้นมีความพิเศษยังไงถึงได้ใจเราไปครอง?
“เขาเป็นคนทำงาน รักครอบครัว และเป็นคนดีค่ะ ก็ถือว่าตรงกับคนในอุดมคติที่เราอยากศึกษาด้วยค่ะ”

 มีแพลนแต่งงานหรือมีครอบครัวอยู่ในหัวบ้างรึเปล่า?
“เชื่อว่าทุกคนก็อยากมีครอบครัวนะคะ สำหรับแพร์เองไม่ได้คิดว่าต้องแต่งงานมีครอบครัวอายุเท่าไหร่หรือช่วงไหน แต่คิดว่าถ้าเจอคนที่ใช่จริง ๆ ในเวลาที่เหมาะสมและลงตัว ถ้าเขามาขอก็คงแต่ง (หัวเราะ) เพราะทุกวันนี้วงการเราเปิดกว้างมาก แต่งงานแล้วก็ยังทำงานได้ค่ะ แต่เอาจริง ๆ ตอนนี้แพร์ยังตอบเรื่องความรักอาจจะยังไม่ได้มากเพราะเราเพิ่งคบกันไม่นานต้องศึกษาดูใจกันไปเรื่อย ๆ ก่อนค่ะ”

 สุดท้ายฝากถึงแฟน ๆ ที่สนับสนุนเราหน่อย?
“ขอบคุณผู้ชมทุกท่านนะคะ ที่ติดตามผลงานของแพร์ ไม่ว่าจะรู้จักแพร์จากเรื่องกรงกรรมแล้วย้อนกลับไปดูผลงานอื่นของแพร์ หรือผู้ชมที่ติดตามแพร์มาเสมออยู่แล้ว แพร์ขอบคุณในแรงสนับสนุนที่ส่งมามาก ๆ  ขอบคุณทุกคอมเมนต์ แพร์พยายามอ่านทุกคอมเมนต์และนำมาปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ขอบคุณผู้ชมที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตการทำงานการพัฒนาตนเองของเรา ขอบคุณมากค่ะ”

ได้พูดคุยกับสาวสวยคนนี้แล้ว ก็ต้องขอยกตำแหน่งนักแสดงคุณภาพน้องใหม่ไฟแรงให้ไปเลย เพราะนอกจากจะมีคุณสมบัตินักแสดงที่ดีแล้ว ยังมีความคิดที่ยอดเยี่ยมกับการพร้อมเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา หากแฟน ๆ ชื่นชอบก็อย่าลืมติดตามและสนับสนุนสาวคนนี้ ให้เธอได้สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ในวงการบันเทิงไปอีกนาน ๆ ตามที่ตั้งใจไว้นะจ๊ะ.

.............................................................