'จตุรงค์'แจงปมกีดกัน'เคน' ไม่มีใครอยากได้ลูกเขยเลว
บันเทิง
Webmaster
2019-05-15 17:20:00
6
Webmaster
2019-05-15 17:20:00
6
-
สนับสนุนเนื่อหา
เพิ่งสูญเสียคุณแม่สุดที่รักไปหมาดๆ สำหรับนักแสดงตลกชื่อดัง จตุรงค์ มกจ๊ก ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว แฟนคลับและคนรอบข้าง ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวจตุรงค์ เจ้าตัวก็ได้เล่าถึงวินาทีสุดท้ายตอนคุณแม่เสียชีวิต พร้อมกับเคลียร์ประเด็นที่ตนกีดกันความรักของลูกสาว ใบเฟิร์น-พัสกร กับหนุ่ม เคน ฮาเซกาวา และประโยคที่ว่าตนอยากได้ลูกเขยรวยๆ
จตุรงค์ เผยว่า “จริงๆคุณแม่เข้าโรงพยาบาลมาประมาณเกือบเดือนนึงแล้ว สัญญาณไม่ดีและทรุดลงเรื่อยๆ นับถอยหลังลงอยู่ตลอดเวลา วันแรกที่เข้าโรงพยาบาลก็ปั๊มหัวใจและมองหน้ากันลุ้นว่ายังไงก็ขอให้แม่ลืมตาได้ก็พอแล้ว แต่มันไม่เป็นแบบที่หวังไว้เขาทรุดลงเรื่อยๆ พอดูแลความดันเบาหวานก็ขึ้นมาอีกหลายๆอย่างจนวันสุดท้าย ลูกหลานมาพร้อมกันก็รู้ว่าแม่เจ็บและทรมาน ก่อนแม่จะเสียเรามีความรู้สึกว่าไม่อยากเห็นไม่อยากดูเลย ทุกคนทำใจหมดแล้วว่าแม่ต้องไปแน่ๆ แต่พอถึงเวลาที่แม่ไปมันเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ที่ผ่านมาเราดูแลแม่อย่างดี เงินเดือนให้ตั้งแต่ทำงานได้จนถึงบัดนี้ไม่เคยขาดซักเดือน”
“เฟิร์นก็เศร้าน่าจะเลิกจากแฟนเพราะเรื่องนี้ เราขอไม่พูดเรื่องของเขาดีกว่า ตอนนี้เฟิร์นก็ดูแลเรื่องงานรดน้ำศพยาย ดูแลทุกอย่างแทนเราหมด เราไม่กล้าพูดอะไรกับลูกเพราะเราเป็นคนพูดตรงๆขวางโลก พูดไปกลัวไปกระทบใจลูกเสียใจ ขนาดเป็นข่าวลุงรงค์บอกอยากได้ลูกเขยรวย มีเงิน มีฐานะ มีงานมีการทำ เป็นคนดีนี่คือเบสิก นะพ่อทุกคนเป็นแบบนี้หมด กลับโดนดราม่าดูถูกคนจน ลูกสาวเห็นแก่เงินแบบนี้ไม่พูดดีกว่า”
“อย่างเรื่องที่เรากีดกันเคน ถามว่าทำไมมองเขาไม่เข้ากับเฟิร์น บอกตรงๆเราโตมาขนาดนี้แล้ว จะโง่มองคนไม่เป็นเหรอ แต่เราอธิบายให้ใครฟัง คนเห็นเราเป็นตลกไม่เชื่อก็แล้วแต่ ซึ่งความจริงมันเป็นแบบนั้นเราก็ต้องการคนรวยสิ เป็นคนดีมีฐานะ ไม่มีพ่อคนไหนบอกว่าอยากได้ลูกเขยจนๆ ไม่มีงานทำมันมีมั้ยผมอยากรู้นัก จริงๆเฟิร์นเวลาเขามีปัญหาอะไรจะเล่าให้ฟังตลอด ไม่ฟังเขาก็จะเล่า เราก็เลยต้องฟังแต่ไม่พูดอะไร เดี๋ยวไม่ถูกใจอีกคือทุกวันนี้ลูกโอเคมาก ดูแลรับผิดชอบได้ทุกอย่างเราก็เลยต้องโอเคกับลูก เฟิร์นเองเขาก็เสียใจที่คนมาว่าเขา เพราะมันเป็นเรื่องเบสิกที่พ่ออยากได้คนแบบที่บอก แต่คนกลับมาด่า หน้าเงิน ใครจะไปเอาคุณอะไรแบบนี้ ตรรกะมนุษย์มันไปหมดแล้ว ยังไงก็สรรหาเรื่องมาด่าได้ ไม่มีพ่อคนไหนอยากได้ลูกเขยเลวๆหรอก”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @jaturong_p
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จตุรงค์ มกจ๊ก'เสียแม่หลังรักษาตัวไอซียูนานนับเดือน
'จตุรงค์ มกจ๊ก'ยิ้มสะใจ! 'ใบเฟิร์น'เลิก'เคน ฮาเซกาวา'
จตุรงค์ เผยว่า “จริงๆคุณแม่เข้าโรงพยาบาลมาประมาณเกือบเดือนนึงแล้ว สัญญาณไม่ดีและทรุดลงเรื่อยๆ นับถอยหลังลงอยู่ตลอดเวลา วันแรกที่เข้าโรงพยาบาลก็ปั๊มหัวใจและมองหน้ากันลุ้นว่ายังไงก็ขอให้แม่ลืมตาได้ก็พอแล้ว แต่มันไม่เป็นแบบที่หวังไว้เขาทรุดลงเรื่อยๆ พอดูแลความดันเบาหวานก็ขึ้นมาอีกหลายๆอย่างจนวันสุดท้าย ลูกหลานมาพร้อมกันก็รู้ว่าแม่เจ็บและทรมาน ก่อนแม่จะเสียเรามีความรู้สึกว่าไม่อยากเห็นไม่อยากดูเลย ทุกคนทำใจหมดแล้วว่าแม่ต้องไปแน่ๆ แต่พอถึงเวลาที่แม่ไปมันเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ที่ผ่านมาเราดูแลแม่อย่างดี เงินเดือนให้ตั้งแต่ทำงานได้จนถึงบัดนี้ไม่เคยขาดซักเดือน”
“เฟิร์นก็เศร้าน่าจะเลิกจากแฟนเพราะเรื่องนี้ เราขอไม่พูดเรื่องของเขาดีกว่า ตอนนี้เฟิร์นก็ดูแลเรื่องงานรดน้ำศพยาย ดูแลทุกอย่างแทนเราหมด เราไม่กล้าพูดอะไรกับลูกเพราะเราเป็นคนพูดตรงๆขวางโลก พูดไปกลัวไปกระทบใจลูกเสียใจ ขนาดเป็นข่าวลุงรงค์บอกอยากได้ลูกเขยรวย มีเงิน มีฐานะ มีงานมีการทำ เป็นคนดีนี่คือเบสิก นะพ่อทุกคนเป็นแบบนี้หมด กลับโดนดราม่าดูถูกคนจน ลูกสาวเห็นแก่เงินแบบนี้ไม่พูดดีกว่า”
“อย่างเรื่องที่เรากีดกันเคน ถามว่าทำไมมองเขาไม่เข้ากับเฟิร์น บอกตรงๆเราโตมาขนาดนี้แล้ว จะโง่มองคนไม่เป็นเหรอ แต่เราอธิบายให้ใครฟัง คนเห็นเราเป็นตลกไม่เชื่อก็แล้วแต่ ซึ่งความจริงมันเป็นแบบนั้นเราก็ต้องการคนรวยสิ เป็นคนดีมีฐานะ ไม่มีพ่อคนไหนบอกว่าอยากได้ลูกเขยจนๆ ไม่มีงานทำมันมีมั้ยผมอยากรู้นัก จริงๆเฟิร์นเวลาเขามีปัญหาอะไรจะเล่าให้ฟังตลอด ไม่ฟังเขาก็จะเล่า เราก็เลยต้องฟังแต่ไม่พูดอะไร เดี๋ยวไม่ถูกใจอีกคือทุกวันนี้ลูกโอเคมาก ดูแลรับผิดชอบได้ทุกอย่างเราก็เลยต้องโอเคกับลูก เฟิร์นเองเขาก็เสียใจที่คนมาว่าเขา เพราะมันเป็นเรื่องเบสิกที่พ่ออยากได้คนแบบที่บอก แต่คนกลับมาด่า หน้าเงิน ใครจะไปเอาคุณอะไรแบบนี้ ตรรกะมนุษย์มันไปหมดแล้ว ยังไงก็สรรหาเรื่องมาด่าได้ ไม่มีพ่อคนไหนอยากได้ลูกเขยเลวๆหรอก”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @jaturong_p
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จตุรงค์ มกจ๊ก'เสียแม่หลังรักษาตัวไอซียูนานนับเดือน
'จตุรงค์ มกจ๊ก'ยิ้มสะใจ! 'ใบเฟิร์น'เลิก'เคน ฮาเซกาวา'
