รู้จักสาวสวยเสียงดี "วาเลนติน่า พลอย" ศิลปินน้องใหม่มากความสามารถ
บันเทิง
Webmaster
2019-04-13 06:45:00
23
Webmaster
2019-04-13 06:45:00
23
-
สนับสนุนเนื่อหา
หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาสาวสวย “พลอย-วาเลนติน่า จาร์ดุลโล” ลูกครึ่งไทย-อิตาลี วัย 25 ปี จากการที่เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมรายการ “เดอะ วอยซ์ ไทยแลนด์ซีซั่น 6” ก่อนจับพลัดจับผลูไปประกวดนางงามเวที “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2018” ได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 จนหลายคนคิดว่าเธอคงเลือกเดินในเส้นทางดังกล่าวต่อไป แต่เพราะใจรักในการร้องเพลงและเล่นดนตรีมากที่สุด ทำให้เธอไม่หยุดฝันตรงนี้ เมื่อได้รับโอกาสที่ดีจากค่าย วอท เดอะ ดักที่ชักชวนให้เธอเป็นศิลปินหญิงเดี่ยว มีซิงเกิ้ลแรกแนวป๊อปโฟล์คที่ชื่อว่า “ซี ยู อิน ไลฟ์” (See You In Life) ภายใต้การดูแลของโปรดิวเซอร์คนเก่ง “ป้อง-ปกป้อง จิตดี” วง Plastic Plastic จนทำให้หลายคนตกหลุมรักเพลงนี้และอยากรู้จักสาวพลอยมากยิ่งขึ้นวันนี้ “ฮันนี่บี” ไม่รอช้าชวนสาวพลอยมาพูดคุยทุกเรื่องราวในชีวิตทำความรู้จักสาวเก่งคนนี้ให้มากขึ้นในบทสัมภาษณ์เลยนะคะ
จุดเริ่มต้นการเป็นศิลปินของพลอยเริ่มจากอะไร?
“พลอยเรียนไวโอลินตั้งแต่เด็ก รวมทั้งชอบร้องและแต่งเพลงเองด้วย แต่มาหยุดเรียนไวโอลินเพราะคลาสเริ่มเข้มข้นขึ้น ซึ่งเราไม่ได้อยากเป็นนักดนตรีแบบนั้นเลยเปลี่ยนมาหัดเล่นกีตาร์ ซึ่งกีตาร์สามารถช่วยเราแต่งเพลงได้ง่ายขึ้น เวลาพลอยเจออะไรมาเราจะเขียนเรื่องราวเก็บเอาไว้เป็นไดอารี่แล้วก็หยิบมาเขียนเนื้อใส่ทำนองร้องออกมาเพื่อให้ตัวเองสบายใจขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทำเพลงเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเอง ไม่คิดแชร์ให้คนอื่นฟัง จนโตขึ้นเราเริ่มหายขี้อายก็เริ่มกล้าแชร์เพลงถึงทุกคนมากขึ้น คือหนูเกิดและเติบโต เรียนหนังสือที่ประเทศอิตาลี ไม่เคยใช้ชีวิตในเมืองไทยเลย มีแค่เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนและเยี่ยมญาติ ๆ ทำให้เลือกลองประกวดร้องเพลงรายการ “The X Factor Thailand” และรายการ “Amici Talent Show” ของประเทศอิตาลี ก่อนเห็นข่าวรับสมัครของ เดอะวอยซ์ ไทยแลนด์ซีซั่น 6 ก็เลยลองสมัครและบินมาประกวดก็ได้อยู่ทีมพี่โจอี้ บอย หลังประกวดเสร็จก็คิดว่าเดี๋ยวคงกลับไปอิตาลี แต่กลับมีงานเรื่อย ๆ แล้วก็ได้ประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์2018 เพราะอยากก้าวข้ามความไม่มั่นใจและขี้อายของตัวเอง ซึ่งได้ประสบการณ์ที่ดีมากได้เจอเบสท์เฟรนด์จากการประกวดครั้งนี้ด้วยค่ะแต่ความสนใจด้านดนตรีและร้องเพลงยังคงมีมาโดยตลอด ตอนประกวดนางงามได้รู้จักกับพี่ “ออน-ชิชญาสุ์ กรรณสูต” เขาทราบว่าพลอยชอบร้องเพลง ก็แนะนำให้เจอกับพี่มอย-สามขวัญ ตันสมพงษ์ ผู้บริหารค่ายวอท เดอะ ดัก เลยลองส่งเดโม่และเพลงที่เราแต่งทั้งหมดให้ฟัง ก็ไม่ใช่ว่าพี่เขาจะตกลงทันที เพราะเราก็ต้องให้เพลงที่ทำไว้พิสูจน์ว่าเราทำได้จริง ๆ เพราะภาพเคยประกวดนางงามมาก่อน เขาอาจจะไม่เชื่อว่าเรารักดนตรีจริง ๆ ก็ได้ แต่สุดท้ายก็ได้มาร่วมงานในค่ายค่ะ”
ช่วงเวลาที่เริ่มทำผลงานเพลงแรกของตัวเองเป็นอย่างไรบ้าง?
“ขอบอกก่อนว่าศิลปินที่พลอยชื่นชอบคือวง “ลินคินพาร์ก” (Linkin Park) นะคะ (ยิ้ม) ชอบวงนี้มาก เป็นแฟนตัวจริงเลย เพราะรักเนื้อเพลงที่ดีของเขา พลอยฟังตั้งแต่เด็กเลย ไรม์เขาคือจีเนียส เขาเก่งมาก พลอยเคยไปดูคอนเสิร์ตที่กรุงโรมแล้วน้ำตาไหลเลย ตอนที่ไมชิ
โนดะมาเล่นที่ไทยก็นั่งแกร๊บไบค์ไปดูคนเดียว(หัวเราะ) แต่พอแนวเพลงที่ตัวเองอยากนำเสนอคือแนวป๊อปโฟล์ค
หลังจากทุกอย่างลงตัวพลอยก็เริ่มทำเพลง ได้โปรดิวเซอร์มาดูแลคือพี่ “ปกป้อง จิตดี” พี่เขาเก่งมาก เพลง “ซี ยู อิน ไลฟ์” (See You In Life) เริ่มจากพลอยลองเล่นกีตาร์อะคูสติก พี่ปกป้องช่วยทำให้เพลงมีชีวิตขึ้น ตรงกับที่เราอยากได้เป๊ะเลยค่ะ วันที่เข้าห้องอัดซิงเกิ้ล ในหัวคือนี่คือเพลงของเราจริง ๆ ใช่ไหม (ยิ้ม) เป็นความรู้สึกที่มีความสุขมากที่เราทำฝันได้เป็นจริง ซึ่งเราก็ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดเพราะพลอยรู้ว่าวงการนี้มีคนเก่งเยอะ ถ้าเราอยากโดดเด่น แค่เป็นตัวของตัวเองไม่พอต้องพัฒนาอยู่เสมอสำคัญที่สุดค่ะ”
เพลง “ซี ยู อิน ไลฟ์” (See You In Life) เล่าถึงเรื่องราวอะไร?
“จริง ๆ พลอยส่งเพลงให้พี่ ๆ ที่ค่ายฟังไป 6-7 เพลงเลยนะคะ แต่เพลงนี้คือเพลงที่ไม่ได้ตั้งใจแต่งเพื่อเอามาทำเพลงแค่เขียนเนื้อเพลงจากประสบการณ์เก็บไว้ ปรากฏว่าทีมค่ายชอบ เนื้อเพลงไม่ได้ปรับอะไรเลยแค่อะเรจน์ดนตรีใหม่เท่านั้น เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากพลอยมาอยู่เมืองไทยก็ไม่ได้กลับไปอิตาลีมา 1 ปี จนมีช่วงที่บินกลับไปหาครอบครัว ก็บังเอิญได้เจอคนที่เคยคบ ช่วงที่เราไม่เจอกันมา 1 ปี หลังจากที่ความสัมพันธ์จบลงไป ทำให้เราได้ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำไม่ดีต่อกันพอกลับมาเจออีกครั้งรู้สึกดีขึ้น เป็นที่มาของคำว่า “ซี ยู อิน ไลฟ์” คือเจอกันใหม่อีกครั้ง เพลงที่พลอยแต่งส่วนใหญ่เป็นเพลงให้ความหวัง ฟังให้ได้ความรู้สึกทั้งเศร้าแต่ก็มองในมุมที่ดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละประสบการณ์ของคนฟังว่าจะสัมผัสอารมณ์ไหนค่ะ จากที่ดูการตอบรับจากคนฟังหลายคนชอบได้อ่านทุกคอมเมนต์เป็นกำลังใจที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ”
จริง ๆ ครอบครัวสนับสนุนการเป็นศิลปินแค่ไหน?
“เรื่องการเป็นศิลปินครอบครัวโอเคนะคะ แต่ตอนแรกครอบครัวเคร่งเรื่องการเรียนมาก คุณพ่อบอกยูเล่นดนตรีได้นะ แต่ต้องเรียนให้ดี เมื่อพ่อเห็นเรารับผิดชอบได้ พลอยชอบจริง ๆ จนไปสมัครประกวดพ่อก็อึ้งที่เห็นเรากล้าทำ ก็เข้าใจและซัพพอร์ตเต็มที่ สุดท้ายเมื่อเรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัย Suor Orsola Benincasa University of Naples ด้านภาษาเพื่อการสื่อสารระหว่างประเทศ ที่นาโปลี ประเทศอิตาลี พลอยสามารถสื่อสารได้ 5 ภาษา คือ อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และ ภาษาไทย แม้ไม่ได้ทำงานในสายที่เรียนจบมา แต่เราก็ได้เดินตามฝันและทำในสิ่งที่รักจริง ๆ อย่างการร้องเพลงครอบครัวก็แฮปปี้มาก ๆ และตอนนี้พลอยเรียนต่อปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด เหนื่อยเหมือนกัน แต่แฮปปี้ค่ะ”
ถือว่ามีความสุขที่ได้ทำตามฝันในการเป็นศิลปินได้จริง?
“พลอยเชื่อเรื่องของโชคชะตานะ จริง ๆ พลอยต้องทำงานที่อิตาลี แต่โชคชะตาก็พาให้เราใช้ชีวิตที่เมืองไทย รู้สึกดีใจที่เราไม่ปล่อยให้โอกาสหรือความขี้อายมาปิดตัวเอง กล้าไปประกวดร้องเพลงประกวดนางงาม และทำตามความฝันเป็นศิลปิน ทุกบทบาทถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในชีวิต พลอยโชคดีมาก ๆ ค่ะ ตอนนี้ถามว่าปรับตัวได้หรือยัง เราใช้ชีวิตเหมือนเดิม แค่มีเวลาน้อยลง ตอนนี้ยังเพิ่งเริ่มต้น คุณพ่อคุณแม่จะพูดตลอด “Never Give Up” อย่ายอมแพ้นะสุดท้ายยูจะภูมิใจที่ทำมันออกมาได้ดีไม่ว่าอะไรก็ตาม ฉะนั้นตอนนี้พลอยมีความสุขมาก จะเดินหน้าทำงานเต็มที่
โดยพื้นฐานของการเป็นตัวของตัวเอง ไม่ปรุงแต่ง ไม่เฟค เราเป็นคนยังไงชอบเราที่เป็นแบบนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลงตัวเราค่ะ”
ตอนนี้เริ่มมีแฟนคลับติดตามหรือยังอยากบอกอะไรพวกเขาบ้าง?
“มีกลุ่มที่ตามตั้งแต่นางงามอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ก็มีคนที่ฟังเพลงแล้วบอกว่าไม่ผิดหวัง แล้วมาเริ่มติดตามเราก็ขอบคุณมาก ๆ หวังว่าทุกคนจะชอบเพลงที่พลอยแต่งเพลงนี้ แล้วติดตามผลงานอื่น ๆ ในอนาคตของพลอยด้วยนะคะ รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวของพลอยได้ในอินสตาแกรม @valentinaploy ทางยูทูบ Whattheduck และเฟซบุ๊กแฟนเพจ Whattheduck Music นะคะ”
จากการพูดคุยกับ “พลอย-วาเลนติน่า จาร์ดุลโล” ในวันนี้ทำให้เรารู้จักตัวตน มุมมองความคิด และความรักในเสียงเพลง จนเดินตามฝันก้าวสู่การเป็นศิลปินได้ หวังว่าเธอจะเป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลาย ๆ คน ฝากผลงานเพลงแรกในชีวิตของพลอยและผลงานเพลงในโอกาสต่อไปด้วยนะคะ.
-------------------------------
ฮันนี่บี.
จุดเริ่มต้นการเป็นศิลปินของพลอยเริ่มจากอะไร?
“พลอยเรียนไวโอลินตั้งแต่เด็ก รวมทั้งชอบร้องและแต่งเพลงเองด้วย แต่มาหยุดเรียนไวโอลินเพราะคลาสเริ่มเข้มข้นขึ้น ซึ่งเราไม่ได้อยากเป็นนักดนตรีแบบนั้นเลยเปลี่ยนมาหัดเล่นกีตาร์ ซึ่งกีตาร์สามารถช่วยเราแต่งเพลงได้ง่ายขึ้น เวลาพลอยเจออะไรมาเราจะเขียนเรื่องราวเก็บเอาไว้เป็นไดอารี่แล้วก็หยิบมาเขียนเนื้อใส่ทำนองร้องออกมาเพื่อให้ตัวเองสบายใจขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทำเพลงเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเอง ไม่คิดแชร์ให้คนอื่นฟัง จนโตขึ้นเราเริ่มหายขี้อายก็เริ่มกล้าแชร์เพลงถึงทุกคนมากขึ้น คือหนูเกิดและเติบโต เรียนหนังสือที่ประเทศอิตาลี ไม่เคยใช้ชีวิตในเมืองไทยเลย มีแค่เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนและเยี่ยมญาติ ๆ ทำให้เลือกลองประกวดร้องเพลงรายการ “The X Factor Thailand” และรายการ “Amici Talent Show” ของประเทศอิตาลี ก่อนเห็นข่าวรับสมัครของ เดอะวอยซ์ ไทยแลนด์ซีซั่น 6 ก็เลยลองสมัครและบินมาประกวดก็ได้อยู่ทีมพี่โจอี้ บอย หลังประกวดเสร็จก็คิดว่าเดี๋ยวคงกลับไปอิตาลี แต่กลับมีงานเรื่อย ๆ แล้วก็ได้ประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์2018 เพราะอยากก้าวข้ามความไม่มั่นใจและขี้อายของตัวเอง ซึ่งได้ประสบการณ์ที่ดีมากได้เจอเบสท์เฟรนด์จากการประกวดครั้งนี้ด้วยค่ะแต่ความสนใจด้านดนตรีและร้องเพลงยังคงมีมาโดยตลอด ตอนประกวดนางงามได้รู้จักกับพี่ “ออน-ชิชญาสุ์ กรรณสูต” เขาทราบว่าพลอยชอบร้องเพลง ก็แนะนำให้เจอกับพี่มอย-สามขวัญ ตันสมพงษ์ ผู้บริหารค่ายวอท เดอะ ดัก เลยลองส่งเดโม่และเพลงที่เราแต่งทั้งหมดให้ฟัง ก็ไม่ใช่ว่าพี่เขาจะตกลงทันที เพราะเราก็ต้องให้เพลงที่ทำไว้พิสูจน์ว่าเราทำได้จริง ๆ เพราะภาพเคยประกวดนางงามมาก่อน เขาอาจจะไม่เชื่อว่าเรารักดนตรีจริง ๆ ก็ได้ แต่สุดท้ายก็ได้มาร่วมงานในค่ายค่ะ”
ช่วงเวลาที่เริ่มทำผลงานเพลงแรกของตัวเองเป็นอย่างไรบ้าง?
“ขอบอกก่อนว่าศิลปินที่พลอยชื่นชอบคือวง “ลินคินพาร์ก” (Linkin Park) นะคะ (ยิ้ม) ชอบวงนี้มาก เป็นแฟนตัวจริงเลย เพราะรักเนื้อเพลงที่ดีของเขา พลอยฟังตั้งแต่เด็กเลย ไรม์เขาคือจีเนียส เขาเก่งมาก พลอยเคยไปดูคอนเสิร์ตที่กรุงโรมแล้วน้ำตาไหลเลย ตอนที่ไมชิ
โนดะมาเล่นที่ไทยก็นั่งแกร๊บไบค์ไปดูคนเดียว(หัวเราะ) แต่พอแนวเพลงที่ตัวเองอยากนำเสนอคือแนวป๊อปโฟล์ค
หลังจากทุกอย่างลงตัวพลอยก็เริ่มทำเพลง ได้โปรดิวเซอร์มาดูแลคือพี่ “ปกป้อง จิตดี” พี่เขาเก่งมาก เพลง “ซี ยู อิน ไลฟ์” (See You In Life) เริ่มจากพลอยลองเล่นกีตาร์อะคูสติก พี่ปกป้องช่วยทำให้เพลงมีชีวิตขึ้น ตรงกับที่เราอยากได้เป๊ะเลยค่ะ วันที่เข้าห้องอัดซิงเกิ้ล ในหัวคือนี่คือเพลงของเราจริง ๆ ใช่ไหม (ยิ้ม) เป็นความรู้สึกที่มีความสุขมากที่เราทำฝันได้เป็นจริง ซึ่งเราก็ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดเพราะพลอยรู้ว่าวงการนี้มีคนเก่งเยอะ ถ้าเราอยากโดดเด่น แค่เป็นตัวของตัวเองไม่พอต้องพัฒนาอยู่เสมอสำคัญที่สุดค่ะ”
เพลง “ซี ยู อิน ไลฟ์” (See You In Life) เล่าถึงเรื่องราวอะไร?
“จริง ๆ พลอยส่งเพลงให้พี่ ๆ ที่ค่ายฟังไป 6-7 เพลงเลยนะคะ แต่เพลงนี้คือเพลงที่ไม่ได้ตั้งใจแต่งเพื่อเอามาทำเพลงแค่เขียนเนื้อเพลงจากประสบการณ์เก็บไว้ ปรากฏว่าทีมค่ายชอบ เนื้อเพลงไม่ได้ปรับอะไรเลยแค่อะเรจน์ดนตรีใหม่เท่านั้น เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากพลอยมาอยู่เมืองไทยก็ไม่ได้กลับไปอิตาลีมา 1 ปี จนมีช่วงที่บินกลับไปหาครอบครัว ก็บังเอิญได้เจอคนที่เคยคบ ช่วงที่เราไม่เจอกันมา 1 ปี หลังจากที่ความสัมพันธ์จบลงไป ทำให้เราได้ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำไม่ดีต่อกันพอกลับมาเจออีกครั้งรู้สึกดีขึ้น เป็นที่มาของคำว่า “ซี ยู อิน ไลฟ์” คือเจอกันใหม่อีกครั้ง เพลงที่พลอยแต่งส่วนใหญ่เป็นเพลงให้ความหวัง ฟังให้ได้ความรู้สึกทั้งเศร้าแต่ก็มองในมุมที่ดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละประสบการณ์ของคนฟังว่าจะสัมผัสอารมณ์ไหนค่ะ จากที่ดูการตอบรับจากคนฟังหลายคนชอบได้อ่านทุกคอมเมนต์เป็นกำลังใจที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ”
จริง ๆ ครอบครัวสนับสนุนการเป็นศิลปินแค่ไหน?
“เรื่องการเป็นศิลปินครอบครัวโอเคนะคะ แต่ตอนแรกครอบครัวเคร่งเรื่องการเรียนมาก คุณพ่อบอกยูเล่นดนตรีได้นะ แต่ต้องเรียนให้ดี เมื่อพ่อเห็นเรารับผิดชอบได้ พลอยชอบจริง ๆ จนไปสมัครประกวดพ่อก็อึ้งที่เห็นเรากล้าทำ ก็เข้าใจและซัพพอร์ตเต็มที่ สุดท้ายเมื่อเรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัย Suor Orsola Benincasa University of Naples ด้านภาษาเพื่อการสื่อสารระหว่างประเทศ ที่นาโปลี ประเทศอิตาลี พลอยสามารถสื่อสารได้ 5 ภาษา คือ อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และ ภาษาไทย แม้ไม่ได้ทำงานในสายที่เรียนจบมา แต่เราก็ได้เดินตามฝันและทำในสิ่งที่รักจริง ๆ อย่างการร้องเพลงครอบครัวก็แฮปปี้มาก ๆ และตอนนี้พลอยเรียนต่อปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด เหนื่อยเหมือนกัน แต่แฮปปี้ค่ะ”
ถือว่ามีความสุขที่ได้ทำตามฝันในการเป็นศิลปินได้จริง?
“พลอยเชื่อเรื่องของโชคชะตานะ จริง ๆ พลอยต้องทำงานที่อิตาลี แต่โชคชะตาก็พาให้เราใช้ชีวิตที่เมืองไทย รู้สึกดีใจที่เราไม่ปล่อยให้โอกาสหรือความขี้อายมาปิดตัวเอง กล้าไปประกวดร้องเพลงประกวดนางงาม และทำตามความฝันเป็นศิลปิน ทุกบทบาทถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในชีวิต พลอยโชคดีมาก ๆ ค่ะ ตอนนี้ถามว่าปรับตัวได้หรือยัง เราใช้ชีวิตเหมือนเดิม แค่มีเวลาน้อยลง ตอนนี้ยังเพิ่งเริ่มต้น คุณพ่อคุณแม่จะพูดตลอด “Never Give Up” อย่ายอมแพ้นะสุดท้ายยูจะภูมิใจที่ทำมันออกมาได้ดีไม่ว่าอะไรก็ตาม ฉะนั้นตอนนี้พลอยมีความสุขมาก จะเดินหน้าทำงานเต็มที่
โดยพื้นฐานของการเป็นตัวของตัวเอง ไม่ปรุงแต่ง ไม่เฟค เราเป็นคนยังไงชอบเราที่เป็นแบบนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลงตัวเราค่ะ”
ตอนนี้เริ่มมีแฟนคลับติดตามหรือยังอยากบอกอะไรพวกเขาบ้าง?
“มีกลุ่มที่ตามตั้งแต่นางงามอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ก็มีคนที่ฟังเพลงแล้วบอกว่าไม่ผิดหวัง แล้วมาเริ่มติดตามเราก็ขอบคุณมาก ๆ หวังว่าทุกคนจะชอบเพลงที่พลอยแต่งเพลงนี้ แล้วติดตามผลงานอื่น ๆ ในอนาคตของพลอยด้วยนะคะ รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวของพลอยได้ในอินสตาแกรม @valentinaploy ทางยูทูบ Whattheduck และเฟซบุ๊กแฟนเพจ Whattheduck Music นะคะ”
จากการพูดคุยกับ “พลอย-วาเลนติน่า จาร์ดุลโล” ในวันนี้ทำให้เรารู้จักตัวตน มุมมองความคิด และความรักในเสียงเพลง จนเดินตามฝันก้าวสู่การเป็นศิลปินได้ หวังว่าเธอจะเป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลาย ๆ คน ฝากผลงานเพลงแรกในชีวิตของพลอยและผลงานเพลงในโอกาสต่อไปด้วยนะคะ.
-------------------------------
ฮันนี่บี.
