ข่าว'ฟลุท' หนุ่มหล่อหน้าใส จากดาราเด็ก สู่นักแสดงมากฝีมือ - kachon.com

'ฟลุท' หนุ่มหล่อหน้าใส จากดาราเด็ก สู่นักแสดงมากฝีมือ
บันเทิง

photodune-2043745-college-student-s
หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตา ฟลุท-ชินพรรธน์ กิตติชัยวรางค์กูร ในภาพของดาราเด็ก ที่เผลอแป๊บเดียว ตอนนี้โตเป็นหนุ่มหล่อหน้าใส สไตล์เกาหลี มาพร้อมผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Sisters กระสือสยาม”  คอลัมน์ “มูฟวี่โซน” สัปดาห์นี้เลยจะพาทุกคนไปพูดคุยกับฟลุทถึงผลงานต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องราวชีวิต 16 ปีในวงการ ที่เจ้าตัวเริ่มถ่ายงานตั้งแต่ 2 ขวบ และต้องบอกว่านอกจากผลงานด้านการแสดงแล้วผู้ชายคนนี้ยังมีของซ่อนไว้อีกเพียบ

บทบาทของฟลุท ในภาพยนตร์เรื่อง Sisters กระสือสยาม เป็นอย่างไรบ้าง?
“เรื่องนี้ผมรับบทก้องเป็นรุ่นพี่ของวีณา (โจ้-พลอยยุคล) และโมรา (มิวนิค BNK48) ก้องเป็นหนุ่มฮอตในโรงเรียน และแอบชอบโมรา และโมราก็ชอบก้องเหมือนกัน แต่เป็นรักหลายเส้า ตรงที่ว่าวีณาก็แอบชอบก้อง แล้ว ชิม่อน-วชิรวิชญ์ ซึ่งรับบทแว่นก็แอบชอบวีณา แต่สุดท้ายแล้วก้องได้คบกับโมราครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร จนกระทั่งโมรามีอาการบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาไม่เหมือนคนทั่วไป ไม่รู้ว่าในความรักนั้นมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง ก็มีซีนที่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ด้วย ก็ต้องมาลุ้นกันว่าสุดท้ายผมจะรู้ไหมว่าคนที่ตัวเองชอบไม่ใช่คนปกติ”

ต้องมาเล่นหนังแนวนี้ ปกติเราเป็นคนกลัวผีไหม?
 “ผมเป็นคนกลัวผีมากครับ ตอนอายุ 13-14 ปี ผมยังให้แม่เฝ้าผมอาบน้ำอยู่เลย (หัวเราะ) เพราะผมเคยเจอจะ ๆ เลย บ้านที่ผมอยู่เคยเป็นที่นาเก่ามาก่อน มีวันหนึ่งผมเปิดประตูบ้าน เจอคนใส่ชุดชาวนาความสูงประมาณ 2 เมตรยืนอยู่ แล้วผมเป็นคนที่ชอบไหว้ศาลพระภูมิเจอก็จะไหว้ตลอด แล้วมีครั้งหนึ่งผมก็ไหว้ตามปกติ แต่ผมเห็นคุณลุงคนหนึ่งค่อย ๆ ปีนเข้าไปในศาลพระภูมิ ผมว่าเรื่องแบบนี้ขึ้นกับว่าดวงของใครจะสามารถสื่อสารกันได้ แต่มีจริงแน่นอน เพราะผมเจอเอง ไม่รู้จะไปโกหกทำไม แต่มาเล่นเรื่องนี้ไม่ได้เจออะไร เพราะไม่ค่อยมีซีนถ่ายทำตอนกลางคืนครับ”

ฟลุทเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับกระสือบ้างไหม?
“เคยครับ บ้านผมได้ยินเรื่องแบบนี้บ่อย เพราะคุณปู่ผมเคยเป็นทหาร ต้องเข้าไปรบในป่า เวลานอนตั้งแคมป์อยู่ในป่า ซึ่งจะมีกฎอยู่ว่าห้ามสูบบุหรี่ หรือจุดไฟ เพราะศัตรูจะเห็นแล้วยิงเราได้ เลยไม่มีใครกล้าจุดไฟทั้งนั้น แต่จู่ ๆ ก็มีไฟสีแดงลอยผ่านหัวไปขณะที่ทุกคนนอนกันอยู่ ทหารทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็เห็นหมด ซึ่งสมัยก่อนก็คงไม่มีโดรนแน่ ๆ เขาก็เลยคิดกันว่าน่าจะใช่กระสือ”



สมมุติว่าชีวิตจริงฟลุทเป็นแบบก้อง แล้วต้องไปเจอแฟนที่เป็นกระสือเราจะรับได้ไหม?
“ถ้าเขาไม่กินเรา และเป็นกระสือที่ดี ไม่ได้ฆ่าคน เราอาจจะซื้อเนื้อมาให้เขากินบ้าง ผมก็โอเคนะ ผมคิดว่าเฟี้ยวด้วยซ้ำ ที่แฟนเราจะถอดหัวตอนกลางคืนได้ แล้วบางทีอาจจะหลอกคนอื่นช่วยเราได้ ผมรู้สึกว่ากระสือไม่ใช่ผีเต็มตัว เป็นลูกครึ่งผีลูกครึ่งคนมากกว่า ไม่ใช่เป็นวิญญาณ ถ้าสวย ผมก็โอเคนะ (หัวเราะ)”

ร่วมงานกับน้องมิวนิค BNK48 เป็นยังไงบ้าง?
 “ผมเคยถ่ายงานกับน้องมิวนิคมาตั้งแต่ 4-5 ขวบแล้วครับ เลยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เวลาเข้าฉากด้วยกันก็เลยเข้าขากันทางการแสดง แต่เรื่องนี้จะมีเขินบ้าง เพราะต้องมีเลิฟซีน แล้วเราเป็นพี่เป็นน้องกัน พอวันหนึ่งต้องมาเล่นอะไรแบบนี้ด้วยกันก็เขินนิดหนึ่ง แล้วพอน้องโตขึ้นก็จะมีความเป็นวัยรุ่น แต่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม ยังเล่นเก่งเหมือนเดิม”

นอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ฟลุทมีผลงานอะไรให้ติดตามบ้าง?
“มีละครเรื่องวัยแสบสาแหรกขาด 2 ทางช่อง 3 ครับ ผมรับบทเป็นเด็กออทิสติก เรียกว่าเป็นบทที่ท้าทายมากที่สุดในชีวิตผมแล้ว จริง ๆ ผมตั้งใจกับงานแสดงทุกเรื่องนะ แต่เรื่องนี้ตั้งใจเป็นพิเศษ ผมค่อนข้างทุ่มเทมากเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด”

เพิ่งอายุ 18 ปี แต่ผ่านงานแสดงมาเยอะมาก?
“ผมเริ่มถ่ายงานตั้งแต่ 2 ขวบ แต่มาเล่นละครช่วง 4-5 ขวบ เรียกว่าผมอยู่วงการนี้มา 16 ปีเต็ม วงการนี้มีอะไรใหม่ ๆ ที่พัฒนาอยู่ตลอด มีบทใหม่ที่แปลกขึ้นวิธีการถ่ายทอดที่ทันสมัยขึ้น ถึงแม้เราจะมีประสบการณ์เยอะก็อาจจะช่วยเราได้แค่ส่วนหนึ่ง แต่เราต้องคอยปรับตัวอยู่ตลอด ไม่ใช่ว่าเล่นมาเยอะแล้วเราจะเซียน บางทีเด็กใหม่ ๆ เก่งตามเราทันก็มี เราเลยต้องพัฒนาไปอีก แต่โชคดีที่ผมทำงานแต่เด็ก ทำให้คนรู้จักเราเยอะ และฝีมือเราก็ไม่ได้แย่ เลยทำให้ผมยังอยู่วงการนี้ได้ อีกอย่างหนึ่งเรื่องนิสัยผมว่าก็มีส่วนนะ เรื่องสัมมาคารวะต่าง ๆ ด้วย”

แล้วเรื่องเรียนตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
“ตอนนี้กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วครับ แต่ผมไม่ได้มีเป้าหมายว่าเราต้องเรียนจบให้สูง เพราะผมชอบเป็นนักร้อง-นักแสดง ต่อให้ผมจบปริญญาเอกผมก็จะคงทำงานด้านนี้  เป้าหมายของผมคือเรียนเพื่อหาความรู้ ผมอยากเรียนตัดต่อ อยากทำงานเบื้องหลังได้บ้าง เพราะตอนนี้ผมทำเพลงเองด้วย ผมทำเอ็มวีเอง แล้วก็คิดไว้ว่าวันหนึ่งเราอยากทำหนังเล่นเองสักเรื่อง ปกติผมทำหนังประกวดกับเพื่อนอยู่แล้ว เลยอยากเรียนให้มีความรู้ทางด้านนี้ เพราะอย่างน้อยเราก็ครบครัน ไม่มีอะไรในวงการที่เราทำไม่ได้”



เพลงที่ฟลุททำเป็นเพลงใต้ดิน หรือมีค่าย
?
“เป็นเพลงใต้ดินครับ แต่ฟังบนดินนะ (หัวเราะ) ผมเขียนเพลงเองทำดนตรีเอง ขายเอง โปรโมตเอง ก็มีค่ายมาฟัง แล้วเรียกไปคุยเยอะ แต่เราเป็นนักแสดงอยู่ การจะไปเซ็นสัญญาแบบนั้นเป็นเรื่องยาก เพลงที่ผมทำจะเป็นแนวป๊อปร็อก เพราะพ่อผมเป็นนักร้องวงร็อก เพลงที่ผมทำเลยมีความร็อกนิดหนึ่ง แต่หน้าตาผมไม่ได้ร็อกมาก แล้วผมก็ชอบฟังเพลงป๊อปด้วย เพลงเลยมีความผสมผสานกัน”

พอโตขึ้น เริ่มมีแฟนคลับสาว ๆ ตามกรี๊ด?
“โตขึ้นกลุ่มแฟนคลับก็เปลี่ยนแปลง มีวัยรุ่นบ้าง แต่เราไม่ได้เหลิงนะครับ เพราะตั้งแต่เด็กเราเข้าใจดีว่าเป็นอะไรชั่ววูบ ช่วงไหนเรามีละคร ก็จะเป็นที่สนใจของทุกคน แต่ช่วงไหนที่ไม่มีอะไรโดดเด่น เราก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ผมเลยทำตัวปกติ”

มีสาว ๆ เข้ามาบ้างไหม?
“มีเข้ามาบ้างครับเรื่อย ๆ (ยิ้ม) ไปหาสาว ๆ ก็มีครับ เราไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง”

สเปกของฟลุทเป็นยังไง?
“ผมว่าทุกคนชอบคนสวย ถ้าเห็นแล้วชอบเลย แบบยังไม่ต้องดูนิสัย ผมชอบแนวฝรั่ง ลูกครึ่ง เห็นแค่รูปก็ชอบได้ครับ (ยิ้ม)แต่คนสวยอาจจะไม่ใช่คำตอบของเรา อย่างบางคนชอบคนเซ็กซี่  แต่เวลาแฟนแต่งตัวเซ็กซี่อาจจะทำให้เขาไม่สบายใจ ไม่อยากให้ใครมองแฟน เพราะฉะนั้นถ้าจะคบใครมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราจริง ๆ ต้องมีอะไรหลายอย่างมากกว่านั้น ผมชอบคนเก่ง คนเรียบร้อย แล้วผมเป็นคนขี้เอาแต่ใจ เขาก็ต้องรับข้อเสียของเราได้ และเข้าใจงานที่เราทำ”

คุณพ่อคุณแม่หวงไหม?
“แม่หวงมากครับ ไม่เคยให้มีแฟนหรอก แต่ผมจะบอกแม่เลยว่าผมมีแฟนนะ คุยกับคนนี้นะ เขาก็โมโหทำไมต้องคุย มีอีกแล้ว (หัวเราะ) คือเราเข้าใจเขานะ แต่เราเป็นวัยรุ่นปกติ แต่ก็ต้องดูว่าอันไหนมากเกินไปสำหรับวัยเราก็จะไม่ทำ คบแบบน่ารักไปเรื่อย ๆ”
      
แล้วตอนนี้มีคนคุยไหม?         
“ก็มีครับ เป็นคนในวงการนี่แหละครับ  เราเป็นเพื่อนกันมาก่อนสองปี”



อยากรู้เลย บอกได้ไหมว่าเป็นใคร?
“บอกก็ได้ครับ (หัวเราะ) พายอาร์ เลิฟซิก เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน เลยรู้ใจกัน คบกันแล้วสบายใจ เขาก็เติมเต็มส่วนหนึ่งของเราได้”

ดาราวัยรุ่นบางคน อาจจะไม่ค่อยอยากเปิดเรื่องความรัก เพราะกลัวเรตติ้งตก?
 “ผมรู้สึกว่าแฟนคลับถ้าเขาจะชอบเราจริง ๆ นะ เขาต้องชอบในแบบที่เราเป็น ไม่ใช่แบบที่เราอยากให้เขาเป็น คือเราก็ไม่ได้เปิดตัวนะว่าเราคบคนนี้ เราก็อยู่เงียบ ๆ แต่เราก็ไม่ได้ห้ามคนรู้ เราไม่ได้โกหก เพราะไม่รู้ว่าโกหกไปแล้วได้อะไร แต่ก็ต้องตกลงกันนะครับ เพราะบางทีผู้หญิงเขาอาจจะไม่อยากเปิด”

แพลนงานในวงการบันเทิงยังไง มีเป้าหมายอะไรต่อไปไหม?
“จริง ๆ ผมอยากเป็นนักร้อง นักดนตรี มากกว่า แต่การแสดงผมก็ชอบ เลยอยากทำสองอย่างควบคู่กันไป  ช่วงไหนว่างจากงานแสดงก็ทำเพลงตามที่ผมชอบ ถ้าเพลงดัง คงมีโอกาสได้ไปทัวร์คอนเสิร์ต ได้เป็นศิลปินแบบที่เราอยากจะเป็น ทำในสิ่งที่เราทำชอบเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดว่าจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน คติประจำใจของผมคือโก ฮาร์ด ออร์ โก โฮม (go hard or go home)” ถ้าไปไม่สุด ก็กลับบ้านเลย”

สุดท้ายอยากให้ฟลุทฝากถึงแฟนคลับที่ติดตามมาตั้งแต่เด็ก ๆ
ก็ฝากผลงานของผมด้วยนะครับ มีให้ติดตามกันเรื่อย ๆ แหละ แต่ช่วงนี้จะจริงจังขึ้น บทบาทสมัยก่อนอาจจะเป็นเด็ก ๆ ดูเพลิน ๆ  มีผลงานเพลง และหลาย ๆ อย่างให้ติดตาม ทั้งงานเพลง หนัง ละคร ก็อยากให้ทุกคนติดตามผมไปเรื่อย ๆ แล้วก็ฝากติดตามชมหนัง Sisters กระสือสยาม ด้วยครับ เข้าฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์”.

......................................................
ลิตเติ้ล เคท