ข่าว'สายป่าน-อภิญญา' ว่าที่เจ้าสาวใช้ความสุขนำชีวิต - kachon.com

ตั้งแต่เห็นตัวอย่างของซีรีส์แอ๊คชั่นแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ “รสริน ล่าแวมไพร์” (Bangkok Vampire) ของ บริษัท เวล ดัน สตูดิโอ จำกัด ผ่านผลงานการกำกับของ “วุ้น-ทรงศักดิ์ มงคลทอง” ที่ออกอากาศทางช่องโมโนทเวนตี้ไนน์ ก็ตื่นเต้นแทนผู้ชมว่าในที่สุดก็มีคนไทยกล้าที่จะลองทำผลงานที่มีความเป็นสากลแบบนี้ ยิ่งได้เห็นรายชื่อนักแสดง อาทิ “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข, กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล” ร่วมด้วย “ปู แบล็คเฮด” ในบทของแวมไพร์ ยิ่งน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก “ดาวต่างมุม” จึงไม่พลาดขอนัดแนะสาวสายป่านมาเล่าบทบาท “รสริน” มือล่าแวมไพร์ ชีวิต 16 ปี ในวงการบันเทิง และการเตรียมตัวในฐานะว่าที่เจ้าสาว หลังปลายปีที่แล้วเข้าพิธีหมั้นกับแฟนหนุ่มนักแสดงรุ่นน้อง “วุฒิ-นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์” แบบเรียบง่ายไป ซึ่งเจ้าตัวเตรียมจัดงานแต่งงานในเดือน ก.ค. 62 นี้ แต่เพราะอะไรสายป่านถึงเลือกที่จะหยุดหัวใจไว้ที่หนุ่มวุฒิ...ติดตามได้ในบทสัมภาษณ์ครั้งนี้เลยค่ะ

 เรื่องราวคร่าว ๆ ของซีรีส์ “รสริน ล่าแวมไพร์” เป็นอย่างไรบ้าง?
“เรื่องราวเกิดจากคดีคนหายตัวลึกลับอย่างต่อเนื่อง เป็นจังหวะเดียวกับการปรากฏตัวของ “รสริน” ที่รับบทโดยป่านเอง ย้ายเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศเดียวกันกับ “กอล์ฟ-พิชญะ” แผนกไอที ซึ่งรสรินไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นแวมไพร์นักล่าที่ตามหาน้องสาวของตัวเอง จึงเกิดเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นค่ะ ตอนที่ทีมงานติดต่อป่านให้เล่นซีรีส์เรื่องนี้ ตัดสินใจไม่นานเลย เพราะป่านสนิทกับทีมผลิตซีรีส์ที่เป็นรุ่นพี่ที่ ม.รังสิต เลยอยากเล่นมากรองานแอ๊คชั่นบท “รสริน” แบบนี้มานาน ถามว่ายากไหม คือชีวิตของรสรินมีสองพาร์ทคือตอนเป็นมนุษย์เขาอยู่ในยุคสงครามเวียดนามที่เป็นสาวหวานเลยยากนิดนึง แต่พอเปลี่ยนไปพาร์ทแวมไพร์ในยุคปัจจุบันก็ไม่ยากแล้ว ปราดเปรียว พูดจามีเชิง ฉลาด เริ่มถ่ายทำจริงไม่คิดว่าจะหนักหน่วงขนาดนี้ ร่างป่านพังไปหมดเลย (หัวเราะ) คือเคยเล่นบทบู๊มาบ้างแต่ไม่เยอะขนาดนี้ ถ่ายทำทั้งหมด 7 เดือน หนักเหมือนกัน แต่สนุกมากโปรดักชั่นใหญ่เหมือนหนัง จนตอนนี้ออนแอร์แล้วเราหายเหนื่อย บอกพี่ ๆ ทุกวันว่าอยากดูมาก และอยากให้มีซีซั่น 2 ด้วยค่ะ”

 เวลาคนไทยลองทำซีรีส์สากล ก็มักถูกหยิบไปเปรียบเทียบกับต่างประเทศกังวลหรือเปล่า?
“ป่านไม่อยากให้คนดูเอาไปเปรียบเทียบกันเลยนะคะ แม้จะมีความสากลแต่เนื้อเรื่องถูกปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมไทยเหมือนกัน แทนที่เราจะเปรียบเทียบหรือมองว่าก๊อบปี้ต่างประเทศ อยากให้คนดูเปิดกว้างนี่คือความกล้าที่ได้ลองทำงานแบบนี้ขึ้นมา ฉะนั้นป่านอยากให้คุณกล้าที่จะดูเช่นกัน ดูแบบไม่คาดหวังหรือมีกำแพง สนุกไปกับซีรีส์ว่าคนไทยทำได้ขนาดนี้ วันหน้าต้องดีขึ้นแน่นอน อุตสาหกรรมทีวีขยายมากขึ้นแล้ว การมีเรื่องใหม่ ๆ แบบนี้เราควรตื่นเต้นไปด้วยกันนะคะ”

 ผลงานการแสดงด้านอื่น ๆ ที่เราจะได้ติดตามมีอะไรบ้าง?
“นอกจากนี้ป่านมีหนังต่างประเทศที่ถ่ายทำไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยข้อมูลอะไรมากนัก เล่นกับพี่ปั้นจั่น-ปรมะ แต่ยังไม่แน่ใจฉายตอนไหน โปรดักชั่นต่างประเทศทั้งหมด มีคนไทยสองคน คือ “ป่าน” กับ “พี่ปั้นจั่น” ค่ะ ก็อยากให้รอติดตามกันรับรองว่าถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้สนุกแน่นอน แต่ละครปีนี้ยังไม่มีคงน่าจะหลังปลายปีนี้ไปก่อนค่ะ”

 การเลือกรับงานของสายป่านมีข้อกำหนดหรือเลือกจากอะไร?
“หนูจะเลือกงานที่ไม่ทับซ้อน ลักษณะงานท้าทาย แปลกใหม่ ถ้าทำแบบเดิม ๆ คนดูเบื่อเราแน่นอน แต่ถ้าจะไม่ให้ซํ้าก็ยากเหมือนกัน เพราะงานการแสดงที่ผ่านมาของป่านนั้นสุดทุกบท (ยิ้ม) เพราะเราทุ่มเทให้ออกมาดีทั้งหมด จนตอนนี้ก็ยังคงรักษามาตรฐานในการทำงานของตัวเองไว้แบบนั้น เพราะเราอยากทำงานในวงการให้นานที่สุด รวมทั้งปัจจุบันคาแรกเตอร์ด้านการแสดงแบบป่านหาทายาทที่คล้ายกันค่อนข้างยาก เราเลยไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไปค่ะ”

 ปีนี้ป่านอยู่วงการมา 16 ปีแล้ว เรียนรู้ ตกผลึกแง่มุมไหนบ้างกับอาชีพนักแสดง?
“รู้สึกตัวเองโตขึ้นมาก งานคือพรสวรรค์ส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีใบเบิกทางที่ดี ผู้ใหญ่ให้โอกาส แต่สิ่งที่ทำให้ป่านโตขึ้นคือสังคมในการทำงาน ที่ต้องบาลานซ์ระหว่างคนธรรมดาและคนมีชื่อเสียง วงการบันเทิงมีคนมาจากร้อยพ่อพันแม่ ทั้งดีและไม่ดี สิ่งเดียวที่ทำได้คือเลือกได้ว่าตัวเองจะเป็นคนแบบไหน เราบังคับคนอื่นไม่ได้ แต่เราบังคับตัวเราได้ว่าจะพูดคิดดีหรือไม่ดี ดังนั้นพวกนี้หล่อหลอมให้ป่านโต ค่อย ๆ เรียนรู้ว่าฉันจะเดินอยู่ในวงการให้ดีนั้นต้องทำอย่างไร ฉะนั้น 16 ปีในวงการบันเทิงหนูมีความสุขมาก ดีใจที่วันนั้นจนวันนี้ป่านก็ยังเป็นป่าน ไม่เปลี่ยนตามกระแสนิยมแล้วเราสบายตัว รวมทั้งไม่มี  “อีโก้” ที่ทำให้นักแสดงหลายคนพังมานักต่อนัก การเป็นนักแสดงที่ดีควรรับมือกับทุกรูปแบบการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ยึดติด เงินก็สำคัญแต่ไม่เท่างานที่มีคุณภาพ ไม่ใช่ “ฉันคือสายป่านนะ” แล้วจะอยู่ไปได้ตลอด ฉะนั้นให้ผลงานสร้างสิ่งที่จดจำของเรามากกว่าด้านอื่น ๆ ดีกว่า ทุกงานแสดงที่เข้ามาป่านยังอยากเรียนรู้อีกเยอะ อยากยืนอยู่บนพื้นฐานของคำว่านักแสดงของโลก ป่านอาจจะเป็นที่รู้จัก และยอมรับในประเทศ แต่กว้างไปกว่านั้นป่านคือใคร เราจะกล้าดียังไงคิดว่าตัวเองเจ๋ง สำหรับป่านยังไม่สามารถเข้าใกล้คำว่าสตาร์ได้จริง ๆ หรอกค่ะ (ยิ้ม)”

 ชื่อเสียง เงินทองเข้ามา เคยมีผลต่อเราไหม?
“เคยมีผลในวันหนึ่งที่ผ่านมา แต่ของพวกนี้เป็นเรื่องปรุงแต่ง คนอื่นตั้งค่า เราสร้างมันขึ้นมาก็ปล่อยมือได้ มันเข้ามาระหว่างทางในวงการบันเทิง แต่ผ่านโฟกัสตัวเอง อาชีพนักแสดง บทที่รับ มากกว่าความดัง ด้วยการทำงานอย่างมีสติ เราถึงไม่ค่อยมีเพื่อนในวงการเยอะไง (หัวเราะ) ไม่ใช่คนแอนตี้สังคมหรือโซเชียลนะคะ แต่ไม่ไปแฮงก์เอาต์ทำให้เราไม่มีสติในการทำงาน ป่านไม่ชอบมานั่งเสียใจว่าทำไมเราทำงานออกมาได้ไม่ดีเลย ทำได้ดีกว่านี้ทำไมไม่ทำ ตอนวัยรุ่นเคยเป็นแบบนั้นก็เกลียดตัวเองมาก หลังจากนั้นมาเราเลือกทำทุกงานให้ดีที่สุดที่ได้รับโอกาสเสมอ”

 ด้วยลุคที่คนมองเห็นเราที่มีรอยสัก มีไลฟ์สไตล์ต่างจากดาราทั่วไป?
“ใช่ค่ะ...โดนมองแบบนั้นมาตลอดเลย ด้วยรสนิยมของหนู ไลฟ์สไตล์ การแต่งตัว กิจกรรม รอยสัก มันทำให้ทุกคนตีความไปแบบนั้น เราไม่ได้เป็นคนแข็งกระด้างขนาดนั้น ป่านฟังเพลงร็อกไม่ได้หมายความว่าป่านดาร์ก ป่านชอบคำพูดของ “แวนโกะ” รอยสักป่านจึงมาจากคำนั้น ไม่ใช่คำคูล ๆ ทั่วไป รอยสักรูปหมาป่าคือความโดดเดี่ยวที่มีเสน่ห์ เกือกม้าคือการเดินทาง ป่านไม่ได้ทำตัวเลอะเทอะ มันคือรสนิยม เพราะป่านโตมากับอิสระที่บ้านมอบให้ เลือกสิ่งที่ชอบจากหนังสือหรืออะไรที่ตกตะกอนมาได้ โดยที่พ่อแม่ไม่เคยตราหน้าแบบที่สังคมทำกับเรา สับสนที่สังคมมองว่าเราเป็นแบบนี้คือไม่โอเค ถ้าเป็นซึมเศร้าเราคงแย่ แต่โชคดีเราเข้าใจ ครอบครัวเข้าใจแค่นี้พอแล้วค่ะ”

 ภาพหลุดในอินสตาแกรมคือเรื่องหนักที่สุดในชีวิต?
“นี่คือสิ่งที่หนูคิดมาตลอด 6 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่มีไอจี พยายามหาทางที่จะหลุดพ้นจากปัญหาเหล่านี้ ด้วยการคิดว่าถ้าเราคิดจะเป็นศิลปินที่ดีและมีคุณภาพ ต้องลอยตัวให้เหนือทุกปัญหา เมื่อไหร่ที่เราลอยตัวเหนือทุกปัญหาได้เราจะไม่ต้องเสียเวลาไปถกเถียง แต่ไม่ใช่ไม่ดูคอมเมนต์นะ เรารับรู้ แต่เราต้อง “สตรอง” กับ “อยู่ให้เป็น” ถ้าเราจริงแฟนคลับจะเข้ามาปกป้องเราเอง และป่านจะเลือกพูดเมื่อถึงเวลา อย่างเรื่องภาพหลุดที่เกิดขึ้น ตอนนั้นไอจีสตอรี่เพิ่งเข้ามา ความผิดพลาดจึงเกิดขึ้น แต่ความผิดพลาดครั้งนั้นคือบทเรียนของตัวเองและคนทั้งประเทศ ทุกคนจำกรณีป่านเป็นบทเรียนที่ใหญ่ เราทำผิดต้องกล้าขอโทษที่บ้านป่านสอนแบบนี้ “ผิดต้องขอโทษ” เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องทำให้ถูกและดีที่สุด ทำเองยอมรับเอง ไม่หนีปัญหา นี่คือชีวิต สุดท้ายคลี่คลายก็จบค่ะ เลือกมองมุมบวก ผ่านมาแล้วนึกย้อนกลับไปก็จำสมนํ้าหน้าตัวเอง ที่ทำอะไรเร็วเกินไปไม่รอบคอบค่ะ”

 ป่านในวัย 29 ปี ชีวิตลงตัว กำลังเป็นว่าที่เจ้าสาวด้วยเป็นอย่างไรบ้าง?
“แฮปปี้ที่สุดนะคะ ในวัย 29 ปีของเรา วันที่เรามีคนอยู่ข้าง ๆ แล้วเราสบายตัว สบายใจ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่มีคนคาดหวังมากมันอิ่มจริง ๆ เราสองคนไม่มีความคล้ายกัน แต่หนูสองคนเป็นคนพูดตรง ใจกว้างทั้งคู่ คุณแมนมาเราก็แมนไป เขาก็ฟัง วุฒิก็จะบอกป่านว่า ป่านจุกจิกมากเรื่องนี้ ยํ้าเรื่องนี้เกินไป ต้องพูดครั้งเดียวแล้วให้เวลาวุฒิแก้ไขหน่อย ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเราเลย เขาคือกระจกสะท้อนที่ดีจริง ๆ พอเรามีความเป็นเพื่อน พี่ น้อง ก็อยู่กันสบาย ๆ จนเรียกได้ว่านี่แหละคือคนที่ใช่ วุฒิอยู่กับเพื่อนได้ อยู่กับครอบครัวป่านได้ทุกคนจริง ๆ ค่ะ”

 ย้อนไปถึงวันที่เจอกันแรก ๆ ว่าเขาจะมาเป็นว่าที่คู่ชีวิตเรา?
“เราเจอกันจากถ่าย “รสริน ล่าแวมไพร์” นี่แหละ แรก ๆ ก็เป็นเพื่อน แต่ช่วงนึงคุยกับเขาเยอะหน่อย ก็เริ่มสนิทกัน เริ่มห่วงกันเลยตกลงเป็นแฟน ช่วงนั้นเจอคนวิจารณ์เยอะ ทำไมชอบคนนี้ ซึ่งป่านไม่ได้มีแฟนในวงการเลย ขอบ ๆ วงการมาก เพราะเราไม่ได้โฟกัสไฮโซ หรือต้องนักแสดงเหมือนกัน การที่เราเป็นคนของประชาชนแล้วมีแฟนเป็นคนเกือบธรรมดา สปอตไลต์เลยไปลงที่วุฒิ แต่เขาแมนมากที่เข้าใจ ถึงจะโดนโจมตีหนักว่าเป็นมือที่สาม ซึ่งไม่ใช่เลย เขาเข้ามาดูแลหลังจากเรายุติรักครั้งเก่า เขาคือคนอยู่จนผู้ใหญ่คุยกันเองว่าถึงเวลาแล้ว เขาเห็นเราอยู่ด้วยกันแล้วทุกอย่างดีขึ้นทั้งคู่ ให้เราสำรวจตัวเองพรุ่งนี้ยังอยากตื่นมาเจอกันอีกไหม คำตอบคือใช่ จึงทำพิธีเรียบง่ายในครอบครัว แพลนจัดงานแต่งประมาณเดือน ก.ค. นี้ แต่ยังไม่ได้วันเลย ยังลิสต์ชื่อแขกไม่หมดเลย ทั้งวงการหนัง ละคร (หัวเราะ) สถานที่ก็ยังไม่ได้ ธีมงานก็ช่วยกันดูว่าชอบแบบไหน พิธีการคงเหมือนทั่วไปทำตามลำดับขั้นตอนค่ะเดี๋ยวคงได้อัพเดทกันอีกทีค่ะ”

 เรื่องมีลูกล่ะ มีหลังแต่งงานเลยหรือเปล่า?
“อยากมีนะคะ แต่คงอีกนานนะป่านว่า ต้องรอหลังแต่งงานก่อน ถ้ามีก็มี ไม่มีก็ท่องเที่ยวกันไปสองคน เรายังอายุไม่มาก ขอสำรวจชีวิตคู่กันไปก่อนว่าเราอยากเป็นยังไง ไม่รู้จะเป็นแม่ยังไงเหมือนกันเนอะ (ยิ้ม)”

 ทุกวันนี้ป่านภูมิใจในตัวเองแค่ไหนอย่างไรบ้าง?
“หนูไม่เคยอยากย้อนไปแก้ไขอะไรเลย มองไปข้างหน้าอีก 40 ปี ก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องนั่งค้นหาตัวเอง เพราะเรารู้แล้วอะไรทำให้เรามีความสุข แฟนคลับคนที่รักและติดตามยังคงให้กำลังใจเราเสมอ”

สุดท้ายฝากอะไรถึงคนที่รักและติดตามเรามาตลอด?
“ฝากผลงานซีรีส์ “รสริน ล่าแวมไพร์” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.00 น. ทางช่องโมโนทเวนตี้ไนน์ (MONO29) และชมแบบครบทุกตอนผ่านทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น โมโนแมกซ์ (MONOMAX) ได้อีกด้วย ขอบคุณทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต หลายคนจะรู้ว่า “ป่านโชคดีที่สายป่านนี้มันยาวมากพอจะเดินอยู่ในเส้นทางนี้” ขอบคุณโอกาสที่ดีเสมอ แฟนคลับที่มั่นคง ขอบคุณพ่อแม่ที่ทำให้เราเป็นเรา ป่านมีความสุขมาก ก็หวังว่าจะสามารถแชร์ให้ทุกคนเห็น แต่ขอแค่อย่าเพิ่งตัดสินป่านจากภายนอกเข้ามารู้จักชีวิตป่านก่อนว่าเป็นยังไง ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจให้ติดตามอีกหลายแง่มุมนะคะ (ยิ้ม)”

จากการพูดคุยกับ “สายป่าน-อภิญญา” ในวันนี้เราได้รับแง่มุมที่น่าสนใจ รวมถึงทำความรู้จักเธอมากยิ่งขึ้นจริง ๆ ยังไงฝากแฟน ๆ ติดตามผลงานและชีวิตครอบครัวของเธอที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้กันด้วยนะคะ.

.........................................
อรุณรัตน์ เศรษฐพูธ์ : เรื่อง / สันติ มฤธนนท์ : ภาพ