'พอล-เอริค-คิมจงกุก' ชวนแฟนชาวไทย เที่ยวสนุกไม่หลับไม่นอน
บันเทิง
ถ้าเอ่ยถึงการท่องเที่ยวคาดว่าทุกคนจะเลือกเที่ยวสถานที่ที่ทำให้เรารู้สึกได้พักผ่อนสะดวกสบายและได้รับความนิยม แต่วันนี้ “ฮานึล” อยากพาคุณผู้อ่านทุกท่านทำความรู้จักการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ตื่นเต้นและอยู่ในเวลาอันจำกัด เพราะล่าสุดเราได้รับเกียรติจาก “วิว” (Viu) ผู้นำการให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งระดับภูมิภาค ที่ดำเนินการโดย “พีซีซีดับเบิลยู มีเดีย กรุ๊ป” (PCCW Media Group) พาบินลัดฟ้าไปยังประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมงานเปิดตัวรายการใหม่จาก “วิว ออริจินัล” (Viu Original) ที่ชื่อว่า “โน สลีป โน โฟโม ลันช์ ปาร์ตี้ บาย วิว” (NO SLEEP NO FOMO LAUNCH PARTY BY VIU) ณ Zouk ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นรายการท่องเที่ยวที่มีคนดังในเอเชียเป็นตัวแทนนำเที่ยว นำทีมโดย พอล ฟอสเตอร์ (Paul Foster), เอริค นัม (Eric Nam), คิมจงกุก (Kim Jong Kook), เบนจามิน เคิง (Benjamin Kheng), แนท โฮ (Nat Ho) (จากสิงคโปร์), เควิน วู (Kevin Woo), อเล็กซานเดอร์ ลี ยูสไบโอ (Alexander Lee Eusebio), ฮาน่า แทม (Hana Tam), ลอรีน อุย (Laureen Uy) และตัวแทนประเทศไทย เทย่า โรเจอร์ (Taya Rogers) พวกเขาทั้งหมดจะพาเราไปเที่ยวในประเทศต่าง ๆ พร้อมทำภารกิจสุดสนุกให้สำเร็จภายในเวลา 60 ชั่วโมงแบบห้ามพักห้ามหลับ เพื่อไม่ให้พลาดความสนุกที่ซ่อนอยู่ในแต่ละประเทศ ภายหลังเสร็จสิ้นงานแถลงข่าว “ฮานึล” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิธีกรหนุ่ม “พอล ฟอสเตอร์” พร้อมแขกรับเชิญตัวแทนศิลปินชาวเกาหลีใต้ชื่อดัง “เอริค นัม” และ “คิมจงกุก” แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อแฟน ๆ ชาวไทย ทั้งเจาะลึกทั้งรูปแบบรายการ ภารกิจที่ตื่นเต้น และสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จากการร่วมรายการครั้งนี้แบบหมดเปลือกว่าทำไมแฟนคลับไทยต้องไม่พลาดชมรายการนี้ ติดตามได้ในบทสัมภาษณ์เลยนะคะ
คุณสองคนคิดอย่างไรกับรูปแบบรายการ “No Sleep No FOMO” ที่ต้องทำภารกิจระหว่างเที่ยวโดยไม่ต้องนอนหลับเป็นเวลา 60 ชั่วโมงทีเดียว?
เอริค นัม : “ใช่ครับ (ยิ้ม) ระหว่างการถ่ายทำคุณจะสงสัยเลยแหละว่าทำไมพวกเราทำได้ขนาดนั้น เวลา 60 ชั่วโมงมันยากมากกว่าจะเสร็จได้ ซึ่งบางภารกิจใช้เวลายาวไปถึง 70 ชั่วโมงก็มีนะครับ ตอนนั้นพลังงานของผมก็หลุดลอยไปเลย (หัวเราะ) แต่มันเป็นสิ่งที่ดีมากที่ได้มาทำภารกิจสนุก ๆ ต่าง ๆ แม้จะยากไปบ้างก็ตามครับ”
เมื่อตอนที่รายการ “No Sleep No FOMO” ติดต่อให้เอริคเข้าร่วมรายการรู้สึกยังไงบ้าง?
เอริค นัม : “แน่นอน ผมชอบเที่ยวครับ ชอบทำอะไรเจ๋ง ๆ ผมตื่นเต้นมากเลยเมื่อทีมงานติดต่อมาให้ผมเข้าร่วมรายการ อีกอย่างคือเราโชคดีที่มีโฮสที่ดีคือคุณพอลเลยผ่านไปได้อย่างดีมาก ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพอลทำมันได้ยังไงทั้ง 8 เอพิโซด เพราะมันยากมากนะครับ แต่สุดท้ายเราก็สามารถผ่านทุกภารกิจกันไปได้อย่างดีเลย”
พอล ฟอสเตอร์ : “ผมโชคดีมากที่โคโฮสติ้งที่ดีอย่างเอริคมาถ่ายรายการด้วยกัน การถ่ายทำมันยากมากจริง ๆ ครับ แต่ทุกภารกิจถือเป็นชาเลนจ์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรานะ ผมต้องเปลี่ยนที่ไปเรื่อย ๆ ไม่มีเวลาจะนอน แต่เพราะผมได้ผู้ร่วมงานที่ดีมากจริง ๆ ทุกอย่างเลยออกมาสนุกและสำเร็จได้ครับ”
เอริค นัม : “บางภารกิจเหมือนดูไม่มีวันจบสิ้น เราเริ่มภารกิจตั้งแต่เจอแสงอาทิตย์ จนกระทั่งฟ้ามืดลง จนฟ้าเริ่มสว่างและมืดอีกครั้ง แต่พวกเราก็ยังไม่ได้นอน (หัวเราะ) ทุกอย่างตื่นเต้นมาก ยิ่งตอนใกล้จบมิชชั่นแต่ไป ๆ มา ๆ ก็ยังไม่จบ ก็ตื่นเต้นว่าเราเหลือเวลาแค่นี้จะทำยังไงดี เป็นการท้าทายที่สุดยอดมาก แต่มันก็ดีมากจริง ๆ ครับเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากเลย ผมทำวาไรตี้โชว์มาเยอะ แต่อันนี้มีข้อจำกัดคือเวลา 60 ชั่วโมง มันยากแต่มันก็สนุกสุด ๆ ไปเลยครับ”
ภารกิจบางอย่างก็ทำให้เรารู้สึกกลัว คุณมีวิธีจัดการความกลัวยังไงบ้าง?
เอริค นัม : “สิ่งที่ผมกลัวหรือไม่ชอบมีอย่างเดียวคือในส่วนของเรื่องผี พอลดูตื่นเต้นในการเจอผีมากครับ (หัวเราะ) เราเหนื่อยมากในตอนนั้น เหงื่อเยอะมาก เพราะทำภารกิจมาเยอะ ตอนนั้นเวลา ตี 3 แล้ว ต้องไปตรงส่วนที่เขาบอกกันว่ามีผีนะ ผมก็แบบทำไมเราต้องไปเจอผีเนี่ย(หัวเราะ) แต่พอลก็ดูอยากเจอผีจัง เขาเรียกหาผีเลยด้วยซ้ำครับอยากให้ทุกคนดูจริง ๆ”
พอล ฟอสเตอร์ : “(หัวเราะ) ผมแค่ตื่นเต้นในการทำเวลาเท่านั้นแหละครับ”
สิ่งที่พวกคุณได้เรียนรู้จากการเข้าร่วมรายการนี้ และสิ่งที่คิดว่าคนดูจะได้เรียนรู้?
เอริค นัม : “สำหรับผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีในการทำรายการนี้ ได้เดินทางไปหลายประเทศ ด้วยคอนเซปต์ของโชว์นี้คือ “Fear Of Missing Out” หรือย่อว่า “FOMO” ตามชื่อรายการเรา คืออาการกลัวที่คนยุคนี้กลัวพลาดบางสิ่งบางอย่างไป แต่รายการเราเอาความกลัวที่จะพลาดบางสิ่งบางอย่างไป มาใช้ในการท่องเที่ยว เวลาไปที่แห่งไหนการเที่ยวแบบเดิม อาจทำให้เราพลาดบางสิ่งที่พิเศษไปครับ ผมมองว่าคนสมัยนี้มักจะอยู่แต่กับโซเชียลมีเดีย ผมว่าถ้าคุณมีเวลา มีแรงอยู่ ก็น่าจะไปสำรวจโลกใบนี้กันนะ อย่ามัวนั่งอยู่ในห้องของคุณ ให้ออกไปหาประสบการณ์ให้ชีวิต คุณนึกออกมั้ยว่าการแค่นั่งอยู่เฉย ๆ มันไม่ช่วยอะไรเลย ซึ่งผมชอบรูปแบบรายการนี้ที่ช่วยให้ผมรู้สึกว่าการออกไปท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่น่าพลาด เป็นเรื่องที่ ว้าว! มากเลย เพราะฉะนั้นต้องออกไปลองหาสิ่งใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง”
พอล ฟอสเตอร์ : “คุณจะเซอร์ไพร้ส์ว่าร่างกายและสมองของคุณทำอะไรได้บ้างครับ ถ้าคุณได้ออกไปเสี่ยงหรือทำอะไรบ้า ๆ บ้างนะ ผมเชื่อว่าเราจะได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลยจากแต่ละมิชชั่นในแต่ละเอพิโซดเมื่อได้ทำภารกิจกับคนที่มาร่วมรายการ ทำให้รู้จักการทำงานเป็นทีมเวิร์กมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งก็เป็นข้อสำคัญ เพราะคุณต้องทำภารกิจกว่า 60ชั่วโมงด้วยกันตลอดเวลา การทำงานเป็นทีมเวิร์กจึงสำคัญมาก อีกอย่างคือถ้าพวกคุณอยากทำอะไรก็ต้องลงมือทำเลย อย่าไปเสียใจกับการทำในสิ่งที่อยากทำ ทุกอย่างมันมีประสบการณ์ของมันทั้งนั้น เราจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากทุก ๆ เอพิโซดของรายการนี้ครับ”
เอริค นัม : “ผมเห็นด้วยกับพอลนะ ชีวิตหนึ่งเกิดมาแล้ว อยากทำอะไรก็ควรที่จะทำให้เต็มที่ ให้มันเป็นสิ่งที่ไม่ทำไม่ได้ ผมแค่รู้สึกว่าคุณต้องเห็นคุณค่าในสิ่งที่คุณมีนะ ตอนแรกผมก็รู้สึกว่าทุกคนมีหลายสิ่งที่ผมไม่มี แล้วเราทำอะไรอยู่ แต่จริง ๆ มันเป็นแค่ความคิด ถ้าคุณอยากทำอะไรก็แค่ลงมือทำเลยจะได้ไม่เสียใจทีหลังครับ อย่างตัวผมเป็นคนค่อนข้างขี้กลัว เป็นคนชอบวิตกกังวลหรือกลัวไปก่อนที่อะไรจะมาถึง รายการนี้ทำให้ผมได้ก้าวผ่านความกลัวของตัวเองมาได้จริง ๆ”
พอล ฟอสเตอร์ : “เอริค! คุณทำมันได้ดีเลยนะ คุณนึกออกไหมบางคนไม่ได้ดีในทุกเรื่อง เราต้องพยายามที่จะทำมันให้ดีที่สุดครับ”
ภารกิจ “คิมจงกุก” ได้ลองทำแล้วจำไม่ลืมเลยในรายการคืออะไร?
คิมจงกุก : “การกินซุปงูครับ (ยิ้ม) คือผมเคยกินแค่ตัวซุปไม่เคยกินเนื้องู แต่มาร่วมรายการนี้ในที่สุดผมก็ต้องลองกินเนื้องู ครั้งแรกในชีวิต หลังจากวันนั้นบอกเพื่อน ๆ เสมอใครไปเที่ยวฮ่องกงต้องลองกินซุปงูครับ”
คุณผ่านรายการ “รันนิ่งแมน” มาแล้ว พอมาร่วมรายการนี้ง่ายขึ้นหรือเปล่าสำหรับการทำภารกิจแบบไม่ต้องนอน?
คิมจงกุก : “ในรายการ “รันนิ่งแมน” มีเวลาถ่ายทำเยอะและทำหลายอย่างครับ แต่รายการนี้เราต้องทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ในเวลานิดเดียวซึ่งยอมรับว่าแตกต่างและยากเหมือนกันนะ”
หลายคนมองว่าคุณเป็น “King Of Variety Show” จากผลงานร่วมรายการทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว?
คิมจงกุก : “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ (ยิ้ม) ผมทำงานตรงนี้มานานเลยได้รู้ว่าคนดูชอบอะไร คนเอเชียชอบวาไรตี้โชว์ เลยพยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุดให้คนได้รู้ว่าทำอะไรในชีวิตปกติ แต่เราถ่ายทอดความสนุกผ่านงานของเราให้ทุกคนได้ติดตามมากกว่า แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลย”
เรียกว่าเป็นบทสัมภาษณ์ที่ 3 หนุ่ม พอล, เอริค และ คิมจงกุก บอกเล่าเปิดใจให้เราฟังแบบเอ็กซ์คลูซีฟจริง ๆ อย่างไรก็ตามฝากทั้งแฟน ๆ ของเดลินิวส์และแฟนคลับของทั้งสามหนุ่ม ติดตามความสนุกของภารกิจต่าง ๆ ที่ไม่ควรพลาดในรายการ “โน สลีป โน โฟโม” (No Sleep No FOMO) ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ทางแอพพลิเคชั่น “Viu” และทางเว็บไซต์ www.viu.com นะคะ.