ข่าว'ญิ๋งญิ๋ง'ขอร้องอย่าโยง'พี่เอส' เป็นคนปล่อยภาพ'ตูมตาม-ลูกน้ำ' - kachon.com

จู่ ๆ ก็กลายเป็นมหากาพย์ดราม่าไปไกล สำหรับกรณีความรักของ ตูมตาม-ยุทธนา เปื้องกลาง กับอดีตแฟนสาว ญิ๋งญิ๋ง-ศรุชา ที่ฝ่ายชายขอเลิกด้วยเหตุผลว่าเหนื่อยกับรัก 3 ปี โดยไม่มีสาเหตุ พร้อมยืนยัน ลูกน้ำ-ทิดาลัด วงสิหลิ นางงามลาวไม่ใช่มือที่สาม จนมีภาพหลุดทั้งคู่จูบกันเป็นหลักฐานว่าสนิทสนมกว่าพี่น้อง ล่าสุดพิธีกรฝีปากกล้า มดดำ-คชาภา ตันเจริญ ที่ออกตัวว่าทีมหนุ่มตูมตามออกมาบอกว่าคนที่ปล่อยภาพตูมตามจูบลูกน้ำ คือ “พี่เอส” ผู้จัดการของ ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล ที่สนิทสนมกับสาวญิ๋งญิ๋งนั่นเอง ล่าสุดเจอญิ๋งญิ๋งในงาน PANDORA เปิดตัว Collection ใหม่ “PANDORA GARDEN” ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ก็เปิดใจให้ฟังว่า
        
“พี่เอสเป็นผู้มีพระคุณของหนู เขาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ พี่เอสอยู่กับหนูตั้งแต่วันแรกที่ร้องไห้จนถึงวันนี้ เขาเหนื่อยมากแล้ว อย่าเอาเขามาเกี่ยวด้วยเลย ถามว่าหนูเห็นภาพนั้นพร้อมทุกคนหรือพี่เอสเอามาให้ดู คืออย่างที่หนูเคยตอบไปหนูกับปุ๊กลุกและพี่เอสนั่งกินข้าวกันอยู่ คงไม่ไปถามพี่เอสเรื่องนี้ เพราะเป็นแค่เรื่องของหนูกับพี่ตูมตาม ไม่อยากดึงคนอื่นมายุ่ง หนูว่าเรื่องนี้ไปไกลแล้ว คนมองว่าพี่เอสเห็นเราเจ็บ ก็เลยขอเอาคืนไม่เกี่ยวกันหรอก ตัวหนูก็ไม่มีรูปพวกนั้นค่ะ เรื่องที่พี่มดดำเอาไปพูดในรายการหลายคนมองว่าเขาดูให้น้ำหนักฝั่งโน้น ขอไม่ออกความคิดเห็น เพราะพี่มดดำก็เป็นอีกคนที่หนูเคารพ เคยรู้จักกันมาไม่อยากให้ไปโยงถึงใครอีก ตอนนี้ถูกโยงเละเทะไปหมด วันนี้ที่ออกงานไม่อยากจะพูดอะไรถึงเขาเลยด้วยซ้ำ หนูจบแล้ว เลือกที่จะเป็นคนหยุดเอง ต้องเข้มแข็ง เดินหน้าเพื่อตัวเองและครอบครัว ทุกคนก็ให้กำลังใจ บอกว่าดีแล้วที่เราลุกขึ้นมาแข็งแรง แฟนคลับก็ให้กำลังใจค่ะ”
          
“ส่วนเรื่องที่มีเพจหนึ่งออกมาแฉว่าในกองสองคนนั้นดูหวานกันมานานแล้ว มีคลิปป้อนขนม เหมือนคนในกองก็รู้เห็นเป็นใจ หนูยังไม่เห็นคลิปเดี๋ยวขอกลับไปดูก่อน  ส่วนเรื่องไอจีหลุมโพสต์สตอเบอรี่แล้วแท็กหาเราสามคน อันนี้หนูก็ยังไม่เห็น ถามว่าถ้าวันหนึ่งทุกอย่างเบาลง เขากลับมาเคลียร์ใจจะโอเคไหม อย่างที่บอกขอไม่ตอบอะไรถึงเขาแล้ว หลังจากที่พูดไปก็ไม่ได้คุย ไม่ได้มีแมสเสจ ไลน์ใด ๆ กับพี่เขาเลย ส่วนที่ไม่ลบรูปเก่าในไอจี เอาเป็นว่าอะไรดี ๆ ก็เก็บไว้ อะไรที่ไม่ดีก็เลือกข้ามผ่านไปสภาพจิตใจตอนนี้ต้องดีขึ้น ต้องเดินหน้าต่อแล้วค่ะ”.