'มารี'เจ็บแต่ไม่ถึงตาย รับปิดฉากรัก6ปีเลิก'ไฮโซโชแปง'
บันเทิง
ลักกี้อินเกม แต่อาจจะไม่ค่อย ลักกี้อินเลิฟ สำหรับสาว มารี เบิร์นเนอร์ ที่ตอนนี้งานแน่นทั้งละครและธุรกิจส่วนตัว แต่ก็มีกระแสข่าวว่าเจ้าตัวเลิกรากับแฟนหนุ่ม โชแปง-เลิศวริศ เลิศวรปรีชา ที่คบหาดูใจกันมานานถึง 6 ปี ล่าสุดเจอตัวมารีในงานเปิดสตูดิโอต่อขนตา “Marie’s Brow and Lash Studio (มารี บราว แอนด์ ลาช สตูดิโอ)” ที่ 953 คอมมูนิตี้ มอลล์ ทองหล่อซอย 9 เลยต้องถามถึงเรื่องนี้และธุรกิจส่วนตัวที่แว่วว่าลงทุนไปถึง 7 หลัก
มารี เผยว่า “สำหรับธุรกิจต่อขนตา ส่วนตัวเราเป็นคนชอบเสริมสวย ชอบต่อขนตาอยู่แล้ว เมื่อก่อนเคยเป็นผู้ใช้บริการ เลยได้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของแต่ละที่ว่าแตกต่างกันอย่างไร เรามีความสนใจด้านนี้มาก เลยไปเรียนต่อขนตา และเรียนสักคิ้วด้วยตัวเอง พอเรียนจบก็อยากเปิดธุรกิจบริการให้ทุกคนได้เจอร้านที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และใส่ใจรายละเอียด กับทีมช่างมืออาชีพและมีประสบการณ์ ร้านนี้เราลงทุนไปเกือบ 7 หลักค่ะ ไม่มีหุ้นส่วน เพราะเราก็ไม่อยากทะเลาะกับใคร ส่วนงานในวงการก็ยังทำเหมือนเดิม เอาคิวละครเป็นหลักอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนไม่มีคิวก็หาวันเข้าร้านให้เยอะที่สุด
ส่วนเรื่องความรักตอนนี้โสดแล้วค่ะ เป็นเรื่องปกติของชีวิต ที่ความรัก มีดีบ้าง แต่บางทีก็อาจจะไปไม่รอด เราเองโสดมาตั้งแต่ช่วงต้นปีค่ะ แต่ก็ยังติด ต่อกันบ้าง เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ก็มีหลายอย่างพัวพันกันอยู่ คบกันมา 6 ปี ก็ต้องเสียใจอยู่แล้ว แต่ไม่ถึงกับตาย คนเราต้องมีความรู้สึกว่าอยู่ไม่ได้จะเป็นจะตาย แต่ก็เป็นแค่ช่วงนั้น พอเราผ่านมันไปได้ก็รู้สึกแฮปปี้ คือที่ผ่านมาเวลารักใครก็รักเดียวใจเดียว คบกับใครก็ค่อนข้างทุ่ม และมีเป้าหมายว่าจะต้องลงเอยด้วยกัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เราเบรกความสัมพันธ์ เป็นความเข้ากันไม่ได้ บางทีคนเราคบกันก็ต้องยอมกันทั้งสองฝ่าย ก็อธิบายยาก ถึงจุดนึงที่เราให้ไปหมดแล้ว ถ้าเราให้อีกเราก็ไม่เหลือความเป็นตัวเองแล้ว ก่อนหน้านี้เราก็มีคุยและปรับความเข้าใจ แต่ก็ไปไม่ได้จริง ๆ ช่วงแรก ๆ เขาก็มีมาง้อบ้างแต่ก็ตกลงกันแล้ว โอกาสรีเทิร์นคงไม่ค่ะ ยากมาก อาจจะดูว่าเราเข้มแข็ง แต่เราผ่านจุดที่แย่มาแล้ว เพียงแต่ว่าเราไม่ได้เป็นคนเปิดเผย เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องคนสองคนที่คบกันมานาน ถึงวันนึงต้องแยกทางกัน แต่ยังเก็บความทรงจำดี ๆ เอาไว้อยู่ ยืนยันว่าไม่ได้มีมือที่ 3 ช่วงนี้เลยรับงานเยอะ เพราะเรากลับมาอยู่กับตัวเอง ก็อยากทำงาน บอกที่ช่องเลยว่า อัดละครมาเลยนะ มีอะไรให้เล่นเราเล่นหมด ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรแล้ว แฮปปี้กับชีวิตมาก ไม่มีอะไรที่ต้องย้อนกลับไปคิดแล้ว เพื่อนบางคนก็ถามว่าทำไมเข้มแข็งจัง คือไม่หรอก อ่อนแอมาเยอะแล้ว จนต้องกลับมาโฟกัสชีวิตตัวเองมากขึ้นแล้ว”.