ข่าว'หนุ่ม' รับถูกใส่กุญแจมือ คือความรู้สึกแย่ที่สุดในชีวิต - kachon.com

หลังจากนักร้องหนุ่ม หนุ่ม-ณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม วงกะลา หยิบเพลง “ยาม” ของวงลาบานูน มาร้องในคอนเสิร์ตตามจังหวัดต่าง ๆ จนถูก หนุ่ย-ชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ ผู้บริหารค่าย “มิวสิคบั๊กส์” แจ้งความดำเนินคดีข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมด 44 คดี ใน 44 ท้องที่ ทำให้หนุ่มต้องเดินสายขึ้นศาลรายงานตัวตามจังหวัดต่าง ๆ  โดยเจ้าตัวได้โพสต์ภาพข้อมือตัวเองที่มีรอยจากการถูกใส่กุญแจมือทำเอาหลายคนรู้สึกเป็นห่วง ล่าสุดเจอหนุ่มในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “คาสเซ็ท เฟสติวัล” ที่อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ เพลส จึงอัพเดทความคืบหน้าคดีดังกล่าว ซึ่งหนุ่มยอมรับที่โดนล็อกกุญแจมือเป็นความรู้สึกแย่ที่สุดในชีวิตยิ่งกว่าอาชญากรอีก
        
หนุ่ม เผยว่า “หลายเดือนที่ผ่านมาไปขึ้นศาลทั่วประเทศทั้งหมด 17 ที่ เนื่องจากมีขั้นตอนเยอะ เรื่องส่วนใหญ่อยู่ที่อัยการเหลือที่ต้องไปส่งตัวกับตำรวจอีก 2 ที่ในกรุงเทพฯ ส่วนรูปรอยใส่กุญแจมืออันนั้นเป็นขั้นตอนของทางอาญา ทุกคนที่ไปขึ้นศาลอาญาต้องโดนล็อกกุญแจมือ บางศาลมีห้องกักกันตัว หลายศาลเป็นคุกจริง ๆ ซึ่งผมก็โดนทั้งห้องกักกันตัว โดนคุก และโดนใส่กุญแจมือรวมกับคนอื่น ครั้งแรกรู้สึกสับสนจะว่าอายก็ไม่เชิง ทำหน้าไม่ถูกก็ไม่ใช่ เพราะตอนเดินเข้าคุก พี่ ๆ นักโทษจำเราได้ เขาพยายามทักทาย แต่ในนั้นเป็นสถานที่ที่เรายิ้มระรื่นไม่ได้ ไม่ใช่ที่ที่จะโบกมือทักทาย ผมรู้สึกไม่โอเคเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิต ท้อนะที่เจออะไรแบบนี้ เวลาไปขึ้นศาลจะมีความรู้สึกผวาลึก คอยลุ้นให้เราไม่ต้องเข้าไปอยู่ในคุก ลุ้นให้ศาลนี้ไม่ล็อกกุญแจมือแล้วพ่วงกุญแจมือเรากับคนอีก 5 คน แล้วก็มีญาติ ๆ มีประชาชนยืนดูผมอยู่ ผมไม่โอเคเลยครับ”
        
“สำหรับเรื่องการบุกจับขณะขึ้นโชว์ ตามกฎหมายทำไม่ได้ แต่ถ้าผมลงจากเวทีโดนรวบได้ ทุกวันนี้ยังให้ผู้จัดการและทนายเฝ้าระวังหมายจับทุกวัน ล่าสุดผมกลับจากฮ่องกงยังไม่ได้นอนก็ต้องบินไปหาดใหญ่เพื่อไปสกัดหมายจับทำตามขั้นตอนของศาล เสร็จแล้วบินไปเล่นคอนเสิร์ตที่เชียงใหม่ หลัง ๆ เซฟตัวเองด้วยการโทรฯ ถามตำรวจ อัยการว่าฟ้องหรือยัง ถ้ายังจะได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบยังไง ต้องทำตามขั้นตอนของศาล น่าจะใช้เวลาอีกพัก ผมยอมรับผิดที่ทำพลาดไป    น้อง ๆ คนไหนกำลังละเมิดอยู่ขอให้ไปทำให้ถูกต้อง ถ้าต้องเจอแบบผมวุ่นวายมาก ส่วนจำนวนเงินค่าปรับยังคงเดิมคือที่ละ 5 แสนบาท ยังไม่มีการลดทอน รวมเงิน 20 กว่าล้านบาท คดีแพ่งที่ถูกฟ้องอีก 40 กว่าล้าน เบ็ดเสร็จ 60 กว่าล้าน ก็ต้องเคลียร์กันต่อไป เพราะเลยจุดไกล่เกลี่ยแล้ว ศาลเรียกคุยทั้งค่ายและผมครับ”.