'เกรท' เปิดสไตล์เอาอยู่ทุกลุค เสน่ห์แฟชั่นอยู่ที่มิกซ์แอนด์แมตช์
บันเทิง
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่มีแฟชั่นโดดเด่น โดยที่ไม่ต้องประโคมแต่งตัวมากมาย สำหรับหนุ่ม เกรท-สพล อัศวมั่นคง ที่ตอนนี้กำลังมีภาพยนตร์ “แสงกระสือ” ผลงานค่าย “ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม” ที่จ่อฉายเดือนมีนาคมนี้ วันนี้ “เทรนดี้ ฟรีไทม์” เลยไม่พลาดไปพูดคุยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เกี่ยวกับแฟชั่นของหนุ่มคนนี้ ที่เกรทเผยว่าคีย์เวิร์ดของเขา อยู่ที่การ “มิกซ์แอนด์แมตช์” ที่สามารถทำให้เกรท ดูดีได้ในทุกลุคจริง ๆ
สไตล์แฟชั่นสบาย ๆ
“ในวันที่ไม่ได้ออกไปทำงาน เกรทชอบแต่งตัวง่าย ๆ สบาย ๆ เสื้อยืด กางเกงยีน เสื้อเชิ้ตหรือไม่ก็กางเกงลายช้าง ที่นักท่องเที่ยวชอบใส่กัน เพราะเมืองไทยค่อนข้างร้อน ถ้าต้องแต่งออกงาน หรือไปในสถานที่พบกับผู้คนเยอะก็จะแต่งตัวดูเป็นทางการนิดนึง แบบกางเกงสแลกที่ดูลำลอง หรือกางเกงยีนสีที่ไม่ซีดมากหรือขาดจนเกินไป แมตช์กับเสื้อยืด ผ้าลินินครับ”
โทนโปรดขาวดำ
“เปิดตู้เสื้อผ้าของผมมาจะเจอโทนสีขาวดำเยอะมาก เพราะผมชอบความเรียบง่ายของมัน แมตช์กับทุกชุดได้ สีขาวและสีดำสามารถแมตช์กับสีแดงหรือม่วงได้ อยู่ที่ว่าเราจะแต่งตัวแนวไหน เสื้อยืดเก่า ๆ สีขาว เราก็นำมาแมตช์ให้แต่งดูเป็นแนววินเทจได้เหมือนกัน แมตช์ได้ง่ายมากทั้งใส่เป็นทางการ ไปเที่ยว ก็ใส่สบายหมด มีช่วงหลังนี้เองที่เพิ่งจะซื้อเสื้อโทนสีแดง ม่วง หรือสีพีชบ้าง เพราะต้องใส่ไปทำงาน เลยต้องมีเสื้อโทนสีแบบนี้ติดตู้ไว้บ้าง”
คอเต่า ดูดีได้โดยไม่ต้องใส่ไท
“ช่วงหลังมาผมจะใส่เสื้อคอเต่าเยอะเวลาที่ออกงาน เพราะคิดไปเองว่าช่วงนี้อยู่ในหน้าหนาว ใส่คอเต่าหน่อยละกัน แม้ว่าแดดจะแรง (ยิ้ม) แต่เราทำงานในห้างเลยพอได้อยู่ ที่ผมชอบเสื้อคอเต่าเพราะใส่แล้ว จากเสื้อผ้าที่ดูแคชชวล มันสามารถออกงานได้เลย ดูสมาร์ทขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไรมาก ใส่คอเต่าแขนยาวหรือแขนสั้น จากนั้นเลือกสีให้เข้ากับงาน แมตช์กับกางเกงสแลกหรือยีนก็อยู่แล้ว อาจเพิ่มดีเทลนิดนึงด้วยการใส่สร้อยคอ กำไล แหวนหรือถ้าเจาะหู ใส่กับตุ้มหูก็ได้ ให้ไม่เรียบเกินไปครับ ซึ่งมันเหมาะกับงานที่ไม่ดูทางการมาก แต่ก็ต้องการความดูดีโดยไม่จำเป็นต้องใส่สูทหรือผูกไท ก็เอาอยู่ครับ”
เสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซซ์
“เสื้อเชิ้ตที่ผมชอบใส่จะโอเวอร์ไซซ์หน่อย ใส่ง่ายในวันสบาย ๆ ของผมที่ไม่ได้ไปออกงานมาก ผมอยากบอกว่าเชิ้ตแต่ละตัวใส่แล้วก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ในการที่เราอยากสื่อมันออกมา บางตัวใส่แล้วรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน บางตัวใส่แล้วรู้สึกจริงจัง เหมือนออกงาน มันสามารถเป็นตัวแทนเราในการบอกความรู้สึกก่อนที่เราจะพูด อย่างเสื้อเชิ้ตตัวโปรดที่ผมชอบใส่ออกงาน คือสีขาว มันให้ความรู้สึกเหมือนเวลาที่เราออกงานแต่ไม่ต้องการแต่งตัวเยอะหรือแน่นมาก แค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแลกก็เอาอยู่ ซึ่งเกรทชอบใส่ทั้งที่ดีไซน์เป็นคอจีน คอปกตั้ง หรือคอปกติก็ได้ แต่ต้องมีคัตติ้งที่ดูไม่ธรรมดาครับ”
ติดนาฬิกา สมาร์ทวอทช์
“เครื่องประดับติดตัวเกรทคือนาฬิกาครับ ที่ผมใส่เป็นนาฬิกาดิจิตอล แนวสมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ที่ช่วงนี้หยิบใส่บ่อยมาก มันสามารถบอกเราได้หมด ทั้งการคำนวณแคลอรีต่าง ๆ สะดวกสบาย เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ด้วย ดีไซน์ก็สามารถเปลี่ยนหน้าปัดได้ ซึ่งปกติผมเป็นคนชอบใส่นาฬิกาอยู่แล้ว ทั้งสายเหล็ก สายหนัง เราเลือกใส่ให้เข้ากับงานนั้น บางวันผมออกจากบ้านธรรมดา ๆ แต่จะใส่สายเหล็กก็ได้ อยู่ที่เราจะมิกซ์แอนด์แมตช์ยังไง”
สร้อยข้อมือได้หลายสไตล์
“สำหรับสร้อยข้อมือของผม บางอันเป็นสายหนัง สายเหล็ก หรือสายลูกปัด อยู่ที่ว่าวันนี้เราจะหยิบมามิกซ์แอนด์แมตช์สไตล์ไหน ถ้าเป็นเสื้อคอเต่า ใส่แมตช์กับสร้อยข้อมือได้ทุกสไตล์เลย แต่สำหรับตัวผมนะ ต้องเลือกนิดนึงคือถ้าเราใส่นาฬิกาที่เป็นสายหนังแล้ว เราก็ไม่ควรใส่อะไรที่ดูแวววาวเกินไป อาจเป็นสายเหล็กก็ได้แต่ขอสีที่แมตช์กัน หรือใส่เป็นกำไลที่เป็นสายหนังหรือเป็นลูกปัดสีดำก็ว่ากันไป ให้มันดูเข้ากับนาฬิกา แต่ถ้าเราใส่นาฬิกาที่เป็นสายเหล็กแน่นอนอยู่แล้ว อีกฝั่งนึงก็เป็นสายเหล็กได้สบาย หรือไม่ต้องใส่นาฬิกาเลยก็ได้ ใส่แค่สร้อยข้อมือมันก็ดูเต็มแล้วครับ”
สนีกเกอร์ใส่จนคุ้ม
“ผมชอบใส่สนีกเกอร์ อย่าง สนีกเกอร์สีขาว อดิดาส ยีซี่ 500 (Adidas Yeezy 500) ค่อนข้างเป็นคู่โปรด เพราะใส่สบายมาก ใส่ออกงานได้ ใส่เดินเล่น และผมเป็นคนที่ถ้าชอบคู่ไหนก็จะใส่คู่นั้นประจำ และมีอีกคู่คือ ไนกี้ แอร์ฟอร์ซ 1 ที่ใส่จนแบบดำปิ๊ดปี๋ จนดูไม่ออกว่าเคยเป็นสีขาวมาก่อน เราใส่ออกงานตั้งแต่เป็นสีขาว จนตอนนี้ดำมากใส่ออกงานไม่ได้แล้ว แต่ใส่เล่นได้อยู่ คือด้วยความที่ผมเป็นคนชอบสีขาว แต่พอเราซื้อสนีกเกอร์สีขาวบ่อยเข้าก็เริ่มเบื่อ ตอนนี้ก็เลือกที่มีสีสัน มีดีเทลมากขึ้น”
เป้อเนกประสงค์
“กระเป๋าที่ติดรถเป็นเป้ สีดำ จริง ๆ ผมไม่ได้เป็นคนที่สะพายกระเป๋าขนาดนั้น แต่เวลาที่ไปต่างจังหวัด 1-2 วันก็ใช้เป้ใบนี้ใส่เสื้อผ้า ใส่ของนิดหน่อย แบบแบ๊กแพ็กได้สบาย ๆ แต่ก่อนผมมีเป้ใบนึงคล้ายเป้เดินเขา เมื่อก่อนใช้บ่อยมากเพราะใส่ของได้เยอะ แต่ผมปลดประจำการใบนั้นไปแล้ว (ยิ้ม) พอเปลี่ยนมาใช้ใบปัจจุบันนี้ก็รู้สึกว่ามันธรรมดาดี เรียบ ๆ และมีดีเทลในตัว เลยคิดว่าแค่นี้ก็พอแล้วและเราใช้ในชีวิตประจำวันได้ ใส่โน้ตบุ๊ก ใส่กล้อง ออกไปเที่ยวกับเพื่อนก็ได้ ใส่ไปต่างจังหวัดได้ ใช้ได้หลายอย่าง เลยยัดใส่รถไว้เลยครับ”
แว่นตาต้องเข้ากับหน้า
“ผมชอบแว่นตาทั้งที่เลนส์เป็นสีดำ และก็มีเลนส์สีชมพู ให้มันเป็นโทนสว่างหน่อย เพราะส่วนใหญ่ผมมักมีแต่เลนส์ดำ ดูทะมึน ๆ น่าเบื่อ หลัง ๆ เลยซื้อสีอื่นบ้าง ส่วนตัวผมใส่แว่นเวลาขับรถ แต่จะเลือกใส่เฉพาะอันที่สบาย เข้ากับหน้าและชุดด้วย แว่นบางอันเราใส่แล้วรู้สึกว่าหนักจมูก จะใส่ไม่บ่อย ใส่แค่ถ่ายรูปหรือเฉพาะงาน ซึ่งทรงแว่นผมชอบหมด ทั้งทรงกลม ทรงเหลี่ยม แต่ดูที่ว่าใส่แล้วเราดูดีแค่ไหน บางอันทรงมันคล้ายกันนะแต่ความกว้างความหนาก็ส่งผลเหมือนกัน หน้าเราก็ไม่ได้ใส่แล้วเข้ากับแว่นทุกอันได้ขนาดนั้น ต้องเลือกที่เข้ากับหน้าเราด้วย แว่นสวยแค่ไหน แต่เข้ากับเราไม่ได้ มันก็แค่นั้นครับ”
แบรนด์เนมหรือไม่ ก็ดูดีได้อยู่ที่การแมตช์
“ผมไม่ค่อยตามแฟชั่นนะ มีช่วงหลังนี่ต้องดูเพราะเริ่มทำงานในวงการ ต้องแต่งตัวให้ดีมากขึ้น เลยดูบ้างว่าช่วงนี้เขาใส่อะไรกัน มาแนวไหน ปรับเปลี่ยนกันไปแต่ต้องเหมาะกับตัวเราด้วย ผมลองมาหลายแบบมาก บางสไตล์ก็ทำไมอยู่กับเขาแล้วดูดี อยู่กับเราไม่เห็นดีเลย เราก็ไม่เอาดีกว่า เลือกชุดที่ดูดีกับเราและเราชอบด้วย เหมาะกับงานต่าง ๆ คือบางชิ้นอาจเป็นแบรนด์เนมได้ แต่บางอย่างเราก็สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ให้มันดูแพงได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องแบรนด์เนม แค่เสื้อตัวละ 100-200 บาทก็ได้ เสื้อบางตัวที่ผมใส่ไปออกงานแค่หลักร้อยบาทเอง อยู่ที่เราแมตช์ให้เหมาะกับเรา ถ้าเราประโคมใส่แต่แบรนด์เนมมากเกินไป บางทีมันก็ออกมาไม่สวย ซึ่งแบรนด์เนมในตัวผมที่แพงสุดคือรองเท้า เพราะมันทน บางคู่ใส่ตั้งแต่ปีที่แล้ว เลยไม่รู้สึกถึงความสิ้นเปลือง เราใส่ได้ทั้งไปเล่น ใส่ออกงาน ใส่ออกกำลังกายครับ”
แนะนำเทคนิคการแต่งตัว
“ผมไม่ใช่แฟชั่นนิสต้าขนาดที่จะแนะนำได้ขนาดนั้น (ยิ้ม) แต่อย่างแรกเลยเลือกจากความชอบตัวเองก่อน เราลองใส่ ลองหาข้อมูล ลองถามคนอื่นก็ได้แต่ก็ไม่ต้องเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ คือเราใส่แล้วดูดี แต่บางคนติไปอย่างนั้น เราต้องเชื่อในตัวเอง กล้าเป็นตัวเอง กล้าใส่เสื้อผ้าที่เราชอบแล้วมันดูดีจริง ๆ แฟชั่นไม่ได้จำกัดว่าต้องใส่เป็นแบบนี้ต้องคู่กับแบบนั้นเท่านั้น เราสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ให้มีแนวทางใหม่ก็ได้ บางทีเราอาจเป็นผู้นำเทรนด์ก็ได้ กล้าลอง กล้าเสี่ยง และต้องอยู่ที่งานและสถานที่เราไป แมตช์กับคนในงานด้วย ถ้าเขาใส่สูทกัน เราแต่งสตรีทไปก็ไม่ใช่ ก็พยายามเรียนรู้ ไม่มีใครแต่งตัวเก่งมาตั้งแต่ครั้งแรก ก็ค่อยศึกษากันไป สักวันมันก็จะเจอสไตล์ที่เข้ากับเราครับ”
มิกซ์แอนด์แมตช์ เทคนิคสำคัญของหนุ่ม “เกรท” ที่สามารถทำให้สไตล์ของเขานั้นดูเท่ แพง และเอาอยู่ได้ทุกลุค โดยที่ไม่ต้องประโคมแบรนด์เนม ซึ่งเชื่อว่าการพูดคุยนี้น่าจะเป็นอีกคำแนะนำดี ๆ เรื่องแฟชั่นให้หลายคนได้ทีเดียว.
.................................................................
อ้อมเอลฟ์