'นาย'เปิดมนต์เสน่ห์ภาพฟิล์ม ทุกการลั่นชัตเตอร์ทรงคุณค่าทางจิตใจ
บันเทิง
Webmaster
2019-02-02 07:00:00
26
Webmaster
2019-02-02 07:00:00
26
-
สนับสนุนเนื่อหา
เป็นอีกหนึ่งคนที่หลงใหลการถ่ายภาพฟิล์ม สำหรับพระเอกหนุ่ม นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ ที่ตอนนี้กำลังมีผลงาน “เฟรนด์ โซน ระวัง...สิ้นสุดทางเพื่อน” เตรียมจ่อเข้าฉายในวันที่ 14 ก.พ. นี้ ซึ่งจากความชอบการถ่ายภาพฟิล์มนี้ ยังทำให้ระหว่างถ่ายทำหนังเรื่องนี้ เจ้าตัวยังได้เก็บภาพบรรยากาศการถ่ายทำในรูปแบบฟิล์ม และยังมีภาพแห่งทรงจำอีกมากมายที่เจ้าตัวถ่ายทอดลงในอินสตาแกรม “naphat_nine_film” ซึ่งนายเปิดมาโชว์ภาพฟิล์มโดยเฉพาะ วันนี้ “สตาร์ เทรนดี้” เลยไม่พลาดพาแฟน ๆ เข้าไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ภาพฟิล์มของหนุ่มหล่อคนนี้กันแบบจัดเต็ม
เริ่มถ่ายภาพฟิล์มจากกองถ่าย “เฟรนด์โซนฯ”
“ผมชอบถ่ายรูปอยู่แล้วตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 แต่พอดีผมได้กล้องฟิล์มตัวนึงมาตอนที่ถ่ายหนังเรื่อง “เฟรนด์โซนฯ” เลยทำอีกโปรเจคท์นึงควบคู่การถ่ายหนังไปเลย นั่นคือการถ่ายภาพฟิล์มตั้งแต่วันแรกที่เป็นตัวละคร “ปาล์ม” นับจากวันที่เราไปเข้าเวิร์กช็อป จนถึงสุดท้ายที่การถ่ายทำเสร็จสิ้นลง ผมจะเอากล้องไปถ่ายในกองถ่ายตลอด คือไม่ได้ถ่ายเก่งนะครับ (ยิ้ม) แต่ก็รู้สึกสนุก แต่ละภาพที่เรากดได้ คือเราไม่ได้กด ๆ ทิ้งไปเหมือนกล้องดิจิตอล และมันก็ลุ้นตอนที่ภาพออกมาว่าจะเป็นยังไง ซึ่งพอเรามาดูทั้งหมด รู้สึกเลยว่าเราไปถ่ายแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะมันเหมือนครั้งนึงเราเป็นตัวละครนั้นจริง ๆ เป็นภาพที่ถ้าไปดูหนังเรื่องนี้แล้ว ทุกคนก็จะเข้าใจว่าภาพนั้นคืออะไร แล้วภาพนั้นก็มีความหมายครับ”
หลงเสน่ห์ภาพฟิล์ม
“ผมรู้สึกว่าการถ่ายภาพด้วยฟิล์มมีเสน่ห์ ภาพที่ออกมาเป็นโทนภาพที่กล้องดีเอสแอลอาร์ก็ทำไม่ได้ บางคนบอกว่าเวลาที่ผมถ่ายภาพทำไมคิดมาก แต่ผมไม่ได้คิดมากนะครับ (ยิ้ม) ผมแค่รู้สึกสนุกกว่าเดิม อย่างถ้าเราเห็นแสงแบบนี้เราต้องคำนวณก่อนเลย รวมไปถึงสนุกที่ได้เรียนรู้ว่าสีของฟิล์มแบบนี้เหมาะกับแสงแบบไหน อีกอย่างคือมันไม่ต้องมานั่งเสียเวลาดูอีก ถ่ายแล้วก็ผ่านไป สำหรับความรู้สึกผมว่ามันดีนะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าการมาถ่ายภาพฟิล์มเป็นการท้าทายฝีมือถ่ายภาพมากขึ้น อย่างตอนที่ผมถ่ายในกองถ่ายหนัง ก็ไม่ได้กะว่าถ่ายเอาสวย เรียกว่าถ่ายเอาความทรงจำอย่างเดียวเลยครับ แต่ถ้าไปถ่ายรูปอื่นก็มีแคร์เรื่องการจัดองค์ประกอบภาพด้วยนิดหน่อย”
ชอบถ่ายภาพแลนด์สเคป แอบสแตรก แสงและเงา
“ปกติผมชอบถ่ายภาพแลนด์สเคป และแนวแอบสแตรก ที่เห็นแสงและเงา เป็นสตรัคเจอร์ หรือไม่ก็เป็นซิมโบลิค แต่หลัง ๆ มาก็ถ่ายหมดเลย รวมถึงการถ่ายภาพคนก็สนุกดี ยิ่งถ้าเราถ่ายแล้วเขาเอาภาพเราไปโพสต์ในไอจีจะยิ่งแฮปปี้มาก ส่วนของความยากในการถ่ายรูป สำหรับผมนะน่าจะเป็นคิดแคปชั่นในตอนโพสต์ไอจีมั้งครับ (หัวเราะ) แต่พอหลัง ๆ มาเราถ่ายด้วยฟิล์มก็ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว มันมีชื่อฟิล์ม มีขนาดภาพ เราก็เขียนแคปชั่นตามนั้นใส่ลงไป ดูเท่ ๆ ผมว่าหลายคนก็น่าจะมีปัญหาตอนโพสต์รูปว่าจะเขียนแคปชั่นว่าอะไรดีนะ”
ภาพบรรยากาศฮ่องกงในความทรงจำ
“เซตรูปบรรยากาศตัวเมืองที่ฮ่องกงตอนผมไปถ่ายทำหนังเรื่อง“เฟรนด์โซนฯ” เซตนี้ถ่ายที่เมืองมงก๊ก ที่ผมประทับใจภาพเซตนี้ก็เพราะว่าเป็นสถานที่ที่ผมได้กล้องฟิล์มที่ใช้ถ่ายรูปตัวโปรดมาด้วย มันเป็นกล้องที่พิเศษมาก เพราะจะถ่ายได้เป็นเฟรมแบบหนังได้ และภาพเซตนี้ยังบ่งบอกถึงความเป็นประเทศฮ่องกงดีครับ เราไปเดินเล่นไปด้วย ถ่ายรูปที่นั่นไปด้วย เลยชอบเซตนี้ทั้งโทนสีและโทนภาพ”
ประทับใจที่แสงและเงา
“รูปฉากผ้าถ่ายตัดกับท้องฟ้าเขียนแคปชั่นภาพว่า Living Coral (ลีฟวิง คอรัล) รูปนี้ผมถ่ายที่งาน “วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล” ผมประทับใจรูปนี้เพราะสีสวยมาก ผมชอบสีโทนนี้และชอบรูปที่มีเรื่องของโครงสร้างแสงและเงาแบบนี้ ซึ่งรูปนี้ผมไม่ได้มีคอนเซปต์ในการถ่ายเป็นพิเศษเลย เห็นแล้วก็กดถ่ายไป”
น้องแมวในดงดอกไม้
“รูปน้องแมว สีขาวลายส้ม นอนตรงดงดอกไม้ รูปนี้ผมก็ชอบนะครับ ถ่ายตอนที่ไปถ่ายหนังที่ จ.เชียงใหม่ พี่หมู-ชยนพ ผู้กำกับเฟรนด์โซนฯ เขาเป็นทาสแมว ซึ่งเจ้าแมวตัวนี้เห็นมันนอนอยู่ แล้วดูน่ารักดี ก็เลยจับถ่ายเลยครับ (ยิ้ม)”
ภาพพอร์ตเทรตในดวงใจ
“สำหรับรูปบุคคลที่ผมประทับใจ คือรูปพี่ญาญ่า–อุรัสยา ที่ผมถ่ายโทนขาวดำ รูปนี้ผมก็ชอบนะ ภาพให้อารมณ์แบบคลาสสิกดี ตอนนี้ไปถ่ายพี่เขาตอนที่ได้ร่วมงานอีเวนต์ด้วยกัน ส่วนภาพพี่โต (Tanis Troe) ซึ่งเป็นผู้กำกับโฆษณาตัวแรกของผม คือผมไปเจอเขาในงาน “วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล” แล้วลูกของพี่เขาน่ารักมาก ผมเองก็ติดตามไอจีเขาอยู่ เลยเข้าไปขออนุญาตถ่ายเขา ซึ่งผมไม่ได้ดีไซน์ให้เขาโพสท่าเลย เราบอกแค่พี่โต ขอเล่น ๆ หน่อย แล้วเราก็แกล้งน้องให้หันมามองกล้อง ก็กดชัตเตอร์เลยครับ (ยิ้ม) ซึ่งแบบนี้จะทำให้ได้อารมณ์ที่จริงกว่าครับ”
เปิดไอจีโชว์ภาพฟิล์มโดยเฉพาะ
“ที่ผมเปิดไอจีชื่อ “naphat_nine_film” ไว้สำหรับภาพฟิล์มโดยเฉพาะนั้น จริง ๆ ก็ไม่มีจุดประสงค์อะไรเป็นพิเศษนะ แค่อาชีพของผม ผมเองก็โดนถ่ายเยอะแล้ว เลยอยากเป็นคนที่ถ่ายคนอื่นบ้าง แค่นั้นเอง (หัวเราะ) ก็ไว้เก็บเป็นความทรงจำในรูปแบบภาพฟิล์มเฉย ๆ อย่างบางรูปอาจไม่ได้เป็นรูปเราเอง กลัวคนที่ตามไอจีของเราอยู่จะรำคาญครับ”
คุณค่าทางจิตใจจากภาพฟิล์ม
“สิ่งที่รู้สึกว่าได้จากการถ่ายภาพฟิล์มคือ เรื่องของคุณค่าทางจิตใจจริง ๆ นะ ภาพแต่ละภาพที่ได้มามันทำให้เราจำได้ ณ โมเมนต์ตอนถ่ายในตอนนั้นว่าเราถ่ายเป็นแบบนี้มา คือเราไม่ได้กดชัตเตอร์ทิ้งขว้าง เวลาเห็นจากแสงที่เราคำนวณได้ มันจะรู้เลยว่าใส่ฟิล์มถ่ายโทนแบบนี้แล้วเหมาะ และพอถ่ายเสร็จก็ยังไม่ได้เห็นทันที ต้องรอลุ้นอีก จังหวะที่รอลุ้น พอได้เห็นภาพก็สนุกดี ซึ่งส่วนตัวผมไม่มีเทคนิคการถ่ายภาพเลย ถ่ายตามความรู้สึก ตามสัญชาตญาณมากกว่า แต่เราก็ต้องถ่ายบ่อย ๆ นะครับ จะได้คุ้นชินกับกล้องด้วย คือผมไม่ได้เรียนถ่ายภาพเลย ถ่ายเองสนุก ๆ มีแต่ตอนปี 1 ที่เคยเรียนการล้างฟิล์มบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถ่ายอีกเลยจนมาแสดงเรื่องนี้แหละที่ได้มาจับกล้องฟิล์มอีกรอบ ตัวผมก็ถ่ายรูปเสียบ่อย อย่างถ่ายฟิล์มม้วนแรกเสียหมดเลย (ยิ้ม) มันเอาต์ โฟกัส ครับ เพราะยังไม่รู้จังหวะกล้อง อะไรทำนองนี้”
แนะเทคนิคการถ่ายรูปฟิล์มแบบฟิน ๆ
“สำหรับการถ่ายรูปนี่ไม่ต้องคิดมากเลย และก็ไม่จำเป็นต้องไปเรียนให้เสียตังค์ การถ่ายรูปนั้นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง บางรูปอาจจะไม่สวย แต่ถ้ามันเป็นภาพที่มีความทรงจำดี ๆ มันก็มีคุณค่าทางจิตใจได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้องราคาแพงเลยด้วย กล้องแพงเอาไว้อวดสาว (หัวเราะ) แต่กล้องอะไรเราก็ถ่ายรูปได้หมดแหละ กล้องฟิล์มราคาตัวละ 2 ร้อยบาท ยังถ่ายได้สวยเลยครับ”
ขอแค่ใช้หัวใจในการถ่ายทอดภาพด้วยความรัก เชื่อทุกการกดชัตเตอร์ของฟิล์มทุกม้วน ย่อมได้ภาพที่งดงามในด้านของการเป็นความทรงจำที่ทรงคุณค่าอย่างแน่นอน.
..................
อ้อมเอลฟ์
