ข่าว'โอปอ ประพุทธ์' พิสูจน์ฝีมือการทำงาน ลุยเองทุกขั้นตอน - kachon.com

ปลายปีที่แล้วศิลปินเสียงอบอุ่นมากความสามารถ “โอปอ-ประพุทธ์ พิมพามา” แห่งค่ายไวท์ มิวสิค ในเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ฯ ปล่อยซิงเกิ้ลลำดับที่ 4 “มีแต่น้ำตา” ออกมาให้คนที่กำลังความรักบอบช้ำและถูกทิ้งฟัง หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเพลงนี้เนื้อร้องบวกกับเสียงคอรัสแบบในโบสถ์คริสเตียนนั้นเพราะแบบบาดลึกทุกครั้งที่ฟังจริง ๆ วันนี้ “ฮันนี่บี” จึงคว้าตัวหนุ่มโอปอมาเล่าการทำงานของซิงเกิ้ลนี้ ที่เจ้าตัวยอมรับว่ากลั่นมาจากประสบการณ์ความรักที่ไม่สมหวังของตัวเองและคนรอบข้าง รวมทั้งถือโอกาสพิสูจน์ฝีมือตัวเองในการชิมลางบทบาทโปรดิวเซอร์ดูแลเบื้องหลังทุกขั้นตอนอีกด้วย

เพลง “มีแต่น้ำตา” ได้รับการตอบรับดีมาก?
“ใช่ครับ ผมหายเหนื่อยเลยนะ เพลงนี้เราเตรียมเนื้อและการทำงานไว้หลายปี แต่ตอนนั้นผมยอมรับว่าผมหยิบมาร้องกลับไม่เข้าใจความรู้สึกที่เจ็บปวดมากขนาดนั้นเป็นอย่างไร กระทั่งมีประสบการณ์ความรักที่ทำให้เข้าใจ (ยิ้ม) งานนี้เป็นเพลงที่ 4 ในสังกัดของไวท์ มิวสิค เป็นอีกก้าวของการทำงาน เพราะผมมีโอกาสได้เป็นโปรดิวเซอร์เพลงนี้ด้วยตัวเอง เพลงนี้ไม่ค่อยแชร์ให้เพื่อนที่มีกำลังทางโซเชียลช่วยโปรโมตด้วยซ้ำ ผมอยากให้เพลงลองทำงานจริง ๆ ว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร สุดท้ายเพลงเข้าถึงคนที่กำลังรู้สึกแบบนี้จริง ๆ ดีใจครับ”

ทำไมเราถึงอยากลองโปรดิวซ์งานด้วยตัวเอง?
“ผมไม่ได้มีประสบการณ์เยอะมาก แต่ในฐานะที่เราทำงานในวงการเพลง ถึงผมจะเป็นศิลปินร้องเพลง แต่งเพลงเองได้ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนอยากพิสูจน์ฝีมือตัวเองในการทำงานเบื้องหลังให้ได้ องค์ประกอบต่าง ๆ มันครบ พอเราลองเสนอพี่ ๆ ก็มองว่าผมน่าจะทำได้ก็ยอมให้เราลอง ผมรู้สึกว่างานชัดเจน รวมถึงได้เรียนรู้การทำงานกับคนอื่น ในบทบาทที่เราต้องตัดสินใจแต่ละจุดเอง งานเพลงเป็นงานศิลปะ เมื่อศิลปะถูกแทนที่ด้วยความกดดันมักจะออกมาไม่ดี ได้รู้ข้อดีข้อเสียของตัวเองเมื่อทำงานในรูปแบบอื่น แต่ทั้งหมดคือประสบการณ์ให้เติบโตและปรับปรุง เพลงนี้ผมยังสามารถพาเพลงไปมาสเตอริ่งที่ประเทศสวีเดน เป็นฝันอีกอย่างที่ได้ลองทำงานกับชาวต่างชาติ อยากรู้มาก ๆ ว่าจะมองงานเรายังไง พอลองติดต่อไปแล้วเขารับงานแล้ว ผมได้ฟีดแบ็กทันทีที่ผมส่งเพลงไปให้เขาฟัง เขาสามารถบอกเลยตรงนี้ยังไม่คม เขาตรงและชัดเจนมาก ตรงไหนไม่คมก็ต้องอัดใหม่ งานละเอียดจริง ๆ สนุกครับ”

เพลง “มีแต่น้ำตา” เล่าถึงความเสียใจในแง่มุมไหน?
“เพลง “มีแต่น้ำตา” เป็นเพลงที่ผมชอบมาก นอกจากเขียนเนื้อร้องทำนองเอง เนื้อหาค่อนข้างเศร้าดึงอารมณ์จมดิ่งที่สุดของเพลงเศร้าเลย ผมได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของคนใกล้ชิด เขาอกหักเห็นเขาร้องไห้อยู่นาน แต่สุดท้ายต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ไม่สามารถดึงใครกลับมาได้ น้ำตานี่แหละเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะอยู่กับเรา เหมือนท่อนที่ร้องว่า “ก็มีแต่น้ำตา ที่สอนให้รู้ว่าเวลาถูกทิ้งไป เจ็บอย่างไร ให้จำเอาไว้เลย ให้เราได้คุ้นเคย ความเจ็บช้ำ” อยู่ที่ใครจะยอมรับและเรียนรู้มันได้เร็วกว่า เพลงนี้ต่างจากเพลงก่อน ๆ ตรงเสียงร้องผมที่มีความกร้านร็อกขึ้น และพิเศษตรงเสียงคอรัสแบบในโบสถ์คริสเตียน (Gospell) ที่อยากนำมาใส่ในงานตัวเองนานแล้ว ขอบคุณค่ายที่ให้โอกาสได้ทดลองจนออกมาดีขนาดนี้ครับ”



รู้สึกได้ว่าโอปอเติบโตและสนุกมากขึ้นในการทำงาน?
“ใช่ครับ ตอนที่มีความเปลี่ยนแปลงเรื่องงาน ยอมรับว่าขาดความมั่นใจ ท้อนะที่เพลงทำงานได้ไม่ดี แต่เรามีความสามารถทางดนตรีและอยากไปต่อด้านนี้ก็ต้องพยายามยิ่งขึ้น ตอนนี้ผมมีความสุขมาก มีทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน ผมภูมิใจที่เราทำงานเองทุกขั้นตอนจริง ๆ เล่าได้ทุกขั้นตอนว่าทุ่มเทอย่างไรบ้าง ชีวิตด้านอื่น ๆ ที่กลับมาเรียนปริญญาตรีให้จบ เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะ ไม่ได้เหนื่อยจากงานที่ไม่ใช่ตัวเอง และเหลือเวลาใช้ชีวิตตัวเองด้วยครับ”

เพลงเศร้าเยอะแล้ว เมื่อไหร่จะกลับมาทำเพลงสนุก เนื้อหาน่ารักอีกครั้ง?
“(หัวเราะ) คนถามผมบ่อยมาก ปีนี้มีแน่นอน ทุกคนบอกว่าสัมผัสได้ว่าเพลงแนวนี้หายไป อย่างที่บอกว่าความรักที่เพิ่งผ่านไปของผม คือจุดที่สุดจริง ๆ แล้ว เป็นรักที่ดำเนินไปในจุดที่เราต้องทิ้งความรักนี้ไป ซึ่งตอนนี้ผ่านมาได้แล้วแหละ สามารถเอาความเศร้าครั้งนี้มาใช้ในการทำงานตอนไหนก็ได้ เจ็บแต่เข้าใจ ข้ามผ่านและเสียสละได้ ยอมรับว่าความรักที่ผิดหวังส่งผลต่อการทำงานของผมเหมือนกัน เพราะเราเอาตัวไปผูก สุดท้ายเวลาผ่านไปเราต้องกลับมารักตัวเองนะ เดี๋ยวนี้ไม่ทำแบบนั้นแล้ว รอฟังเพลงสดใส ๆ มุมที่ดีในปีนี้แน่นอนครับ”

ลุคต่าง ๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลง เสื้อผ้า หน้าผม โตขึ้น?
“ละลายลุคเก่าไปเยอะเลยครับ (หัวเราะ) จากเซอร์ ๆ ก็โตขึ้น ผมเข้าใจชีวิตมากขึ้น เราต้องแต่งตัวดูแลลุคทำไม ผมให้เกียรติตัวเองสวมใส่ชุดเสื้อผ้าที่ดีมากขึ้น ลุคที่ดีสร้างการจดจำและส่งผลต่องานของเราเช่นกัน ค่อย ๆ ปรับไปไม่ได้เยอะเกินไปผมเบาขึ้นนะเมื่อเข้าใจตรงนี้ ปรับตัวได้แล้วว่างานตรงนี้มีปัจจัยอะไรบ้างก็สนุกไปกับการทำงานมากขึ้น”

มีตรงไหนที่เรารู้สึกว่าต้องปรับปรุงแก้ไขบ้าง?
“ผมว่าเรื่องวินัยที่จัดลำดับความสำคัญของชีวิต ยิ่งค่ายมีศิลปินเยอะหลากหลาย ทำงานละเอียดจะปล่อยอะไรออกมาทีเช็กแล้วเช็กอีก มันก็ทำให้เราฉุกคิดการทำงานของตัวเองเช่นกันที่ต้องจริงจัง น้อง ๆ รุ่นใหม่เข้ามาเยอะด้วย ในเมื่อเรายังต้องอยู่ต้องกินมีผลต่อตัวเราแน่ ๆ ถ้าเราไม่พัฒนาตัวเองในทุก ๆ ด้านครับ”

สุดท้ายฝากอะไรถึงคนที่รักและติดตามผลงานเราหน่อย?
 “ผมยังมีพลังและความสุขในการทำงานตรงนี้ ยังอยากมีอัลบั้ม ลองร่วมงานกับศิลปินคนอื่น ๆ หรือโปรดิวซ์งานให้คนอื่น ผมมีเป้าหมายที่อยากทำให้ได้ อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจด้วย ขอบคุณที่ติดตามกันมาตั้งแต่ผมประกวดเดอะวอยซ์ จนตอนนี้เป็นศิลปินที่ไวท์ มิวสิค ขอบคุณที่สนับสนุน ผมฝากงานเพลงใหม่ด้วย ผมจะเป็นศิลปินที่ให้ความจริงใจ และเป็นประโยชน์กับคนฟัง หวังว่างานของผมจะช่วยมอบความสุขแก่ทุกคนครับ ติดตามความเคลื่อนไหวผมได้ที่เฟซบุ๊ก whitemusicrecord, oporpraput และ IG : @oporpraput” นะครับ”

จากการพูดคุยกับ “โอปอ-ประพุทธ์” ในครั้งนี้ เราสัมผัสได้ถึงความเติบโตในเส้นทางดนตรี ที่เจ้าตัวมุ่งมั่นและตั้งใจทำผลงานเพลงที่ดีให้แฟนเพลงมาก ๆ หวังว่าทุกคนจะรู้จักเขามากขึ้นรวมทั้งให้กำลังใจรับฟังทุก ๆ ผลงานเพลงในอนาคตด้วยนะคะ.

...........................................
ฮันนี่บี